โดย…สุนันท์ ศรีจันทรา
ลุ้นกันใจหายใจคว่ำ ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ จะถอยลงไปต่ำกว่า 1600 จุดหรือไม่ แต่หลังจากทรุดหนักในการซื้อขายช่วงเช้าวันที่ 25 ต.ค. เปิดการซื้อขายภาคบ่าย สถานการณ์ได้พลิกฟื้น ดัชนีฯดีดกลับแรง ทะยานกลับมาเป็นบวกได้ เพียงแต่จะเป็นการดีดกลับในระยะสั้นหรือไม่เท่านั้น
หลายวันแล้วที่ตลาดหุ้นถูกแรงกระแทกจากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐยาวนับสัปดาห์ ทำให้กระดานทั่วโลกแดงฉาน โดยคืนวันพุธ ดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 608 จุด และทำให้ตลาดหุ้นย่านเอเชียรูดลงตามระหว่าง 2%-4%
หุ้นไทยเปิดมาถูกถล่มทันที แม้จะมีแรงซื้อเข้ามาต้าน แต่สู้แรงขายไม่ไหว จนดัชนีฯ หลุดจากระดับ 1600 จุด และต่ำสุดที่ 1596.40 จุด ก่อนจะเริ่มกระเตื้องขึ้นก่อนปิดการซื้อขายภาคเช้า แต่เมื่อเปิดการซื้อขายภาคบ่าย แรงซื้อไหลทะลักเข้ามา ดัชนีฯ ขยับขึ้นอย่างรวดเร็วม้วนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ โดยขึ้นไปสูงสุดระหว่างวันที่ 1645.91 จุด ก่อนปิดการซื้อขายที่ระดับ 1644.33 จุด เพิ่มขึ้น 20.96 จุด
การฟื้นตัวของตลาดหุ้น เป็นผลพวงจากดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ซึ่งกลับมาบวกกว่า 100 จุดและส่งผลกระตุ้นเชิงจิตวิทยา เพราะถ้าดาวโจนส์กระเตื้อง ตลาดหุ้นทั่วโลกคงหมดแรงกดดัน และมีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยตลาดหุ้นย่านเอเชียส่วนใหญ่ที่ติดลบรุนแรงในช่วงเช้า กลับมาติดลบเพียงเล็กน้อย เว้นแต่ตลาดหุ้นโตเกียวที่ทรุดหนักเท่านั้น
กระดานหุ้นที่เหมือนถูกฉาบด้วยสีแดงมานับสัปดาห์ เมื่อวันนี้เขียวขจีกันหมด นักลงทุนที่กำลังสิ้นหวัง เริ่มกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง เพราะตลาดหุ้นตั้งหลักได้แล้ว จนบางคนมองว่า การปรับฐานใหญ่ อาจสิ้นสุดลงแล้ว
ดัชนีฯ ที่ทรุดลงไประดับ 1596 จุดระหว่างชั่วโมงซื้อขาย อาจเป็นจุดต่ำสุดในรอบนี้
แต่เร็วเกินไปว่า ตลาดหุ้นได้กลับสู่สถานการณ์ที่ปกติ เพราะตลาดหุ้นสหรัฐยังไม่นิ่ง และพร้อมที่จะผันผวนได้ตลอดเวลา ซึ่งจะจุดชนวนให้เกิดการเทขายหุ้นระลอกใหม่
นอกจากนั้น นักลงทุนต่างชาติยังไม่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยเทขายต่อไป วันนี้ขายอีก 4,113 ล้านบาท แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลงมาลึกมาแล้วก็ตาม
นักลงทุนยังมองโลกในแง่ดีไม่ได้ แม้จะมีข่าวดี กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งกองทุนวงเงิน 1,000 ล้านบาท เลือกลงทุนในหุ้นชั้นดีจำนวน 33 บริษัทก็ตาม
เพราะถ้าตลาดหุ้นผันผวน เงินจากกองทุนใหม่ของกบข. ไม่อาจพยุงตลาดหุ้นได้และไม่มีทางต้านทานแรงขายของต่างชาติได้
การดีดตัวกลับของตลาดหุ้น อาจเป็นจังหวะที่นักลงทุนจะได้ปรับพอร์ต โดยเทขายหุ้นออกมาบ้าง เพื่อลดความเสี่ยงในความไม่แน่นอนของตลาดหุ้น โดยเฉพาะในระยะสั้น ซึ่งมรสุมข่าวร้ายยังไม่สงบราบคาบ และดัชนีฯ ยังมีโอกาสที่จะทรุดลงมาใหม่
ตราบใดที่ต่างชาติยังไม่หยุดขาย ตราบใดที่สงครามการค้ายังไม่คลี่คลาย และสถานการณ์ภายในประเทศยังขาดแคลนข่าวดี ความเสี่ยงยังคงดำรงอยู่ ซึ่งนักลงทุนยังต้องระมัดระวังตัวต่อไป อย่ามั่นใจว่า ปิดฉากรอบขาลงแล้ว
แนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงนี้ ต้องติดตามประเมินความเคลื่อนไหววันต่อวัน ไม่อาจคาดหายทิศทางได้ล่วงหน้า โดยปัจจัยภายนอกยังเป็นปัจจัยชี้นำที่สำคัญ โดยเฉพาะดัชนีฯดาวโจนส์ ซึ่งเป็นตัวกำหนดการขึ้นลงของดัชนีฯในแต่ละวัน
แต่ดาวโจนส์ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ เดี่ยวดีเดี๋ยวร้าย วันนี้อาจดี พรุ่งนี้อาจร้าย และทำให้ตลาดหุ้นทรุดหนักลงไปอีกก็ได้
จึงอย่ามั่นใจว่า ตลาดหุ้นผ่านช่วงเลวร้ายสุดๆ ไปแล้ว
________________
หนังสือ “หุ้นต้องห้าม” และ “หุ้นวายร้าย” โดย สุนันท์ ศรีจันทรา
สั่งจองได้ที่
inbox สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ คลิก https://m.me/BaanPhraAthit
Line คลิก https://line.me/R/ti/p/%40baan_athit