HoonSmart.com >> ‘FM’ หุ้นไก่มีนวัตกรรม ขายปีละ 5,763 ล้านบาท ชูจุดเด่น ส่งออก 90% ให้กับร้านอาหาร และซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เติบโตสูง พร้อมเทรด 25 ก.ค.นี้
ประเทศไทย ได้ชื่อว่าเป็นครัวของโลก และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอาหารมายาวนาน บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีประสบการณ์ในธุรกิจอาหารจากไก่กว่า 30 ปี ต่อยอดพัฒนานวัตกรรมอาหารจากไก่ มีรายได้กว่า 5,700 ล้านบาทในปี 2566 ที่ผ่านมา และทะยานอย่างต่อเนื่องจากเทรนด์การบริโภคไก่ในตลาดโลก พร้อมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไตรมาส 3 ปีนี้
บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนในธุรกิจอาหารจากไก่ (Food Focus) เดิมคือ บริษัท อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทย จำกัด (Thai Feed Meal) ก่อตั้งโดย สนิท ดุษฎีโหนด ประธานบริษัทฯ ถือเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจอาหารสัตว์ในประเทศไทยเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ก่อนขยายทำธุรกิจเกี่ยวกับไก่อย่างครบวงจร ทั้งอาหารสัตว์ ลูกไก่ โรงเชือด และอาหารแปรรูป จากแนวโน้มการบริโภคไก่ในตลาดโลกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์รักสุขภาพ จึงหันมาโฟกัสธุรกิจผลิตและจำหน่ายไก่แปรรูปปรุงสุก (Cook-Added Value Products: CAV) เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Food Technology) เพราะเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าสูง โดยปี 2566 ที่ผ่านมา มียอดขาย 5,763 ล้านบาท
“แนวโน้มผลิตภัณฑ์จากไก่ได้รับการตอบรับดีมาก โดยเฉพาะในตลาดโลก ซึ่งเทรนด์ผู้บริโภคหันมาผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่มากขึ้น เพราะดีต่อสุขภาพ ทำให้ตลาดส่งออกเติบโตสูงมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตลาดหลักอยู่ที่ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน โดยธุรกิจจำหน่ายไก่แปรรูปปรุงสุกมีกำไรสูงกว่าการจำหน่ายเนื้อไก่ทั่วไป 3 – 4 เท่า เราจึงหันมาโฟกัสธุรกิจนี้เป็นหลัก และพร้อมนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” สนิทกล่าวถึงที่มาของการนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ พร้อมกระจายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป
เน้นเติบโตด้วยนวัตกรรม
FM เน้นลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไก่โดยเฉพาะตลอดทั้ง Supply Chain เริ่มตั้งแต่การเลี้ยงไก่เนื้อที่มีคุณภาพผ่านเครือข่ายเกษตรกร Contract Farm ปัจจุบันมีจำนวน 87 ราย ธุรกิจโรงเชือดและชำแหละไก่ที่ถูกหลักสุขอนามัยตามมาตรฐานสากลและการส่งออก ตลอดจนการผลิตชิ้นส่วนไก่สด ไก่แช่เย็น แช่แข็งเพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการตัดแต่งชิ้นส่วนไก่ตามขนาดและน้ำหนักที่ลูกค้าต้องการ จากความเชี่ยวชาญและเครื่องจักรอัตโนมัติ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ตอบโจทย์ผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ที่สำคัญเป็นกระบวนการผลิตที่ไม่มีการสูญเสีย หรือ Zero Waste 100%
ณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท FM กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของบริษัทที่อยู่ในธุรกิจไก่มากว่า 30 ปี มีความพร้อมด้านบุคลากร ทีม R&D ที่มีความเชี่ยวชาญและมีห้องครัวปฏิบัติการ (Lab Kitchen) สำหรับทดสอบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ของผู้บริโภค เช่น การผลิตเนื้อไก่ที่มีโอเมก้าสูง ซึ่งเป็นจุดขายที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด ทำให้มีออร์เดอร์เพิ่มสูงขึ้นมากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในตลาดส่งออกหลัก เช่น สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น แคนาดา เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เกาหลีใต้ กัมพูชา จีน สิงคโปร์ และมีแผนขยายตลาดที่มีศักยภาพสูงอย่างตะวันออกกลาง อย่างซาอุดีอาระเบีย
“เรามุ่งสร้างการเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าด้วยนวัตกรรม เน้นกลยุทธ์เพิ่มมูลค่าจากผลิตภัณฑ์ไก่ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาเฉพาะความต้องการของลูกค้า หรือ OEM รวมถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะ อย่างการตัดแต่งชิ้นส่วนเนื้อไก่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ระดับโลก รวมถึงการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านอาหาร (Food Technology) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านคุณค่าทางโภชนาการของผู้บริโภค ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในตลาดโลก” ณัฐพลกล่าว
ปัจจุบัน FM มีการส่งออกผลิตภัณฑ์จากไก่ไปต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 95% ของการผลิตไก่ทั้งหมด เป็นการส่งออกไก่แปรรูป 62% และผลิตภัณฑ์ไก่สด 38% โดยปี 2566 มียอดขายรวม 5,763 ล้านบาท เติบโต 18% จากปีก่อน มีอัตรากำไร 18% ขณะที่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มียอดขาย 1,737 ล้านบาท เติบโต 23% มีอัตรากำไร 71% และคาดว่าในช่วง 3 ปีข้าง (2567 – 2569) จะมีการเติบโตสัดส่วน 25 – 30% ต่อปี โดยมีบริษัทในเครือรวม 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอฟแอนด์เอฟฟู้ด จำกัด ประกอบธุรกิจโรงเชือดและชำแหละไก่ บริษัท สปริงคิทเช่น จำกัด ประกอบธุรกิจโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ปรุงสุก และบริษัท เอฟแอนด์เอฟเพ็ทฟู้ด จำกัด โรงงานผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2569
บริษัทมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ SET ในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวนหุ้นที่เสนอขาย (IPO) จำนวน 376.96 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 38.16% ในราคาพาร์ 2 บาท/หุ้น ทุนชำระแล้วหลัง IPO 1,975.66 ล้านบาท โดยมีแผนใช้เงินลงทุนในการปรับปรุงสายการผลิตเดิมและเพิ่มไลน์การผลิตของโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุก (CAV Products) ซึ่งภายหลังการลงทุนจะมีผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปเพิ่มขึ้น 30% ปัจจุบันบริษัทมีการผลิตไก่ 140,000 ตัว/ปี และบริษัทมีนโยบายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ หลังหักภาษี
“เรามองโอกาสในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตลอด และมั่นใจว่าธุรกิจอาหาร โดยเฉพาะในประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นครัวของโลก ซึ่งทำให้ธุรกิจของเราเติบโตมาได้อย่างต่อเนื่องในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อไปตามเทรนด์ความต้องการอาหารในตลาดโลก และเราผ่านมาแล้วทุกวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดนก โควิด เรายังเติบโตได้ วัฎจักรของธุรกิจมีขึ้น มีลง และในช่วงที่เศรษฐกิจขาลง เรามองเป็นโอกาสในการลงทุน เพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” สนิทกล่าวทิ้งท้าย