PTTEP กำไร 1 หมื่นล้าน ยันปีนี้ขายเข้าเป้า-คุมต้นทุนผลิต 31 ดอลลาร์

ปตท.สผ. กำไรพุ่ง 189% จากไตรมาส 2 และพลิกจากขาดทุนช่วงเดียวกันปีก่อน ได้ประโยชน์ทางภาษีจากเงินบาทแข็ง ได้ราคาน้ำมันเพิ่มมาช่วย หนุนคิดกำไรจากการดำเนินงานปกติ ดีขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 13% จากไตรมาส 2 ยันฐานะการเงินแข็งแกร่ง

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. (PTTEP)เปิดเผยผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2561 มีกำไรสุทธิ 10,401 ล้านบาท พลิกจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 8,681 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 189% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2/2561 ที่มีกำไรสุทธิ 3,590 ล้านบาท

ส่วนผลงานรวม 9 เดือนปีนี้ มีกำไรสุทธิ 27,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16,234 ล้านบาท พุ่งขึ้น 145% จากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 11,138 ล้านบาท

สาเหตุที่มีกำไรสุทธิ 315 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 3/2561 สูงขึ้นมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ประเด็นหลักมาจากผลประโยชน์ทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนตามค่าเงินบาทที่แข็งค่า ณ สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ 32.41 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับสิ้นไตรมาส 2 อยู่ที่ 33.17 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับกำไรจากการดำเนินงานปกติ อยู่ที่ 292 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 13% จากไตรมาสที่ 2/2561 แต่เพิ่มขึ้น 34% จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาเฉลี่ยทั้งไตรมาสอยู่ที่ 74.22 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลบวกต่อราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 47.67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 46.94 ดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 2 และปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยที่ดีขึ้นมาอยู่ที่ 304,940 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากโครงการบงกชที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะสามารถรักษาระดับเป้าหมายการขายเฉลี่ยทั้งปีนี้ ที่ประมาณ 310,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนต่อหน่วยในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 33 ดอลลาร์ สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เป็นผลจากค่าภาคหลวงที่ปรับตัวตามราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ย และค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากการซื้อสัดส่วนเพิ่มเติมในโครงการบงกช การรับรู้สินทรัพย์พร้อมใช้งานจากโครงการเอส 1 โดยบริษัทยังคงความพยายามในการรักษาระดับต้นทุนการผลิตต่อหน่วยสำหรับปี 2561 ให้อยู่ที่ประมาณ 31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ

” งวด 9 เดือน บริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 252 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากค่าเงินบาทแข็งขึ้นเพียง 0.27 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ น้อยกว่างวด 9 เดือนของปีก่อน ที่แข็งค่าขึ้นถึง 2.46 บาทต่อดอลลาร์ และยังมีการรับรู้ขาดทุนจากอนุพันธ์ทางการเงินเพิ่มขึ้น 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหลักจากการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน และมีการรับรู้ขาดทุนจากการขายสินทรัพย์(แหล่งมอนทารา) 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ”

ทางด้านการเงิน บริษัทยังมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมรับโอกาสการลงทุนต่าง ๆ สะท้อนผ่านความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ 2,264 ล้านดอลลาร์สหรัฐและมีระดับอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ที่ 73%

ฐานะการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 3/2561 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 19,210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นส่วนของเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นทั้งสิ้น 3,804 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่มีหนี้สินรวม 7,433 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ย 1,947 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่วนของผู้ถือหุ้น 11,777 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อ่านประกอบ

คาด PTTEP โชว์กำไร1.2 หมื่นล้าน ไตรมาส 3