“คลัง” เชือด “บล.เอเชีย เวลท์” สั่งปิดกิจการชำระบัญชี

HoonSmart.com>> รมว.คลัง สั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ “บล.เอเชีย เวลท์” ตามข้อเสนอก.ล.ต. กรณีหุ้น MORE บริษัทนำเงินลูกค้า 154 ล้านบาท ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยมิได้รับอนุญาต ไม่นำมาคืนภายในเวลากำหนด และไม่สามารถแก้ไขจัดให้มีระบบงานในการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดซ้ำอีก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ด้วยเหตุนำเงินของลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยมิได้รับอนุญาต และไม่นำมาคืนภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการ ก.ต.ท. กำหนด และไม่สามารถแก้ไขการดำเนินงานเพื่อจัดให้มีระบบงานในการป้องกันมิให้เกิดการนำเงินของลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยลูกค้ามิได้อนุญาตภายในระยะเวลาที่กำหนด

สืบเนื่องจากในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เข้าตรวจสอบการดำเนินงานของหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด พบว่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 บล.เอเชีย เวลท์ ได้นำเงินของลูกค้าจำนวน 154 ล้านบาท ไปใช้ชำระค่าซื้อหลักทรัพย์บริษัท มอร์ รีเทิร์น (MORE) กับบริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นการนำเงินของลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยที่ลูกค้ามิได้อนุญาต โดยสาเหตุเกิดจากลูกค้าที่ซื้อหลักทรัพย์ MORE ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 ไม่สามารถชำระราคาได้

สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า บล.เอเชีย เวลท์ มีการดำเนินงานในลักษณะที่อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ประโยชน์ของประชาชน จึงได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการกำกับตลาดทุน (คณะกรรมการก.ต.ท.) ซึ่งคณะกรรมการ ก.ต.ท. อาศัยอำนาจตามมาตรา 143 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) สั่งให้ บล.เอเชีย เวลท์ แก้ไขการดำเนินงาน โดยให้นำทรัพย์สินของลูกค้าที่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์มาคืนและให้จัดให้มีระบบงานการป้องกันมิให้เกิดการนำทรัพย์สินของลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยลูกค้ามิได้อนุญาตภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งต่อมา บล.เอเชีย เวลท์ ไม่สามารถดำเนินการภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการ ก.ต.ท. กำหนดได้ ทั้งนี้ คณะกรรมการ ก.ต.ท. มีมติไม่ขยายระยะเวลาให้กับ บล.เอเชีย เวลท์ ตามที่ได้ขอขยายระยะดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าว โดยได้คำนึงถึงความเป็นไปได้ของการดำเนินการ รวมทั้งความเหมาะสมและการป้องกันผลกระทบต่อทรัพย์สินของลูกค้าแล้ว

สำนักงาน ก.ล.ต. จึงนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาในการประชุมครั้งที่ 16/2565 วันที่ 1 ธันวาคม 2565 ซึ่งคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า บล.เอเชีย เวลท์ ไม่ได้นำทรัพย์สินของลูกค้าที่นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์มาคืนภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการ ก.ต.ท. กำหนด และไม่สามารถแก้ไขการดำเนินงานเพื่อจัดให้มีระบบงานในการป้องกันการนำเงินของลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์โดยที่ลูกค้ามิได้อนุญาตตามการสั่งการของคณะกรรมการ ก.ต.ท. ได้ ประกอบกับการที่บริษัทนำเงินของลูกค้าไปใช้ในครั้งนี้ มิได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เคยกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว รวมทั้งก่อนเกิดเหตุการนำเงินของลูกค้าไปใช้ในครั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เตือน บล.เอเชีย เวลท์ แล้วว่า บริษัทจะต้องไม่นำเงินลูกค้าไปใช้ แต่บริษัทยังคงกระทำการที่เป็นความผิดซ้ำอีกโดยที่บริษัทรู้ว่ากระทำมิได้ คณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงมีมติให้มีข้อเสนอแนะต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ก ของ บล.เอเชีย เวลท์ ตามมาตรา 143 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อสั่งการของคณะกรรมการ ก.ต.ท. ตามมาตรา 143 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 143 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ก ของบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2566

อนึ่ง สำหรับลูกค้า บล.เอเชีย เวลท์ ขอให้ติดต่อขอรับทรัพย์สินที่ฝากไว้กับ บล.เอเชีย เวลท์ คืน โดยติดต่อผ่านช่องทางของบริษัท หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อขอคำแนะนำได้ที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร 1207 หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. หรืออีเมล info@sec.or.th