CGSI คาดกรอบ SET วันนี้ 1,280-1,315 จุด แนะ BJC-TFG

HoonSmart.com>> CGSI ประเมินแนวโน้มดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,280-1,315 จุด แรงกดดันประเด็นทางการเมือง รอคำตัดสิน 2 คดีอยู่ แนะ Trading หุ้น BJC ราคาอ่อนตัวลงมาก คาดกำไรต่อหุ้นเติบโตสูงกว่าคาด หุ้น TFG รับราคาสกุรยังขาขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดคาดกรอบ SET ที่ 1,280-1,315 จุด Overhang คำตัดสินทางการเมืองยังคงอยู่ โดย ประธานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่า คดียุบพรรคก้าวไกล และ คดีพิจารณาหลักฐานคดีจริยธรรมนายกฯ มีแนวโน้มได้ข้อสรุปก่อนเดือน ก.ย.2567 หรือ นับจากนี้อีกเกือบ 2 เดือน

ด้าน Uptick rule ที่มีการเริ่มใช้ในเดือนก.ค.2567 ทำให้เริ่มเห็นแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติบ้างในรอบหลายสัปดาห์ อย่างไรก็ดี SET Index ก็ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากประเด็นทางการเมืองดังกล่าว

ในส่วนของภาพต่างประเทศ คำสุนทรพจน์ของ FED เกี่ยวกับ Disinflationary path ยังคงคลุมเคลือ เรื่องการปรับดอกเบี้ยสู่ระดับ 2% จับตา Non-farm payroll ศุกร์นี้ตลาดคาด +200k

จากนี้จับตาพัฒนาการณ์ทางการเมืองและผลประกอบการณ์ในไตรมาส 2/67 เริ่มโดย กลุ่มแบงค์ โดย เราประมาณการว่ากำไรสุทธิโดยรวมในไตรมาส 2/67 องธนาคารใหญ่ห้าแห่งจะลดลง 1.8% yoy และ 7.2% qoq เพราะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยคาดจะลดลง qoq เหลือ 3.39% เราเชื่อว่าสินเชื่อจะยังเติบโตชะลอตัวในไตรมาส 2/67 เนื่องจากธนาคารยังใช้เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่เข้มงวด ยังแนะนำ Neutral กลุ่มธนาคาร โดยเลือก BBL และ KBANK เป็นหุ้น Top pick

กลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นเทรดดิ้งกลุ่ม Mid-Small cap ที่ภาพรวมกำไรไตรมาส2/67, งวดครึ่งปีหลังนี้แข็งแกร่ง รวมถึงหุ้น Global play (Exports / Commodities) และ Defensive play (ICT / Hospital) แนะนำ KLINIQ , ITC , TU , GFPT , HANA , CPF , TFG , ADVANC

ส่วน Domestic play ที่เรามองว่าหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมาพอสมควรและมีมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ (Undemanding Valuation) ได้แก่ CRC , LH ,BBL, HMPRO ซึ่งเรามองเป็นการ DCA เพื่อรอการฟื้นตัวในไตรมาส 4/67 (เน้นสะสมช่วงปลายไตรมาส 3/67)

หุ้นแนะนำ Trading “BJC” หลังราคาปรับตัวลดลงมาพอสมควร และ BigC ปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจจากเดิมที่เน้นอัตรากำไรมาเป็นการเน้นเพิ่มยอดขายรวมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นเชิงรุกและแคมเปญลดราคาน่าจะทำให้ปริมาณการขายและส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้น โดย อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) มีแนวโน้มดีขึ้นจาก -3% ในเดือนเม.ย.-พ.ค. 2024 เป็น +2% ในเดือนมิ.ย.2567 ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจทำให้ EPS เติบโตได้สูงกว่าคาดและน่าจะช่วยทำให้อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยและรายได้ค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน (Take profit : 21.40 / Stop loss : 20.30)

หุ้น TFG กระทรวงเกษตรของจีนรายงานว่าจำนวนพ่อแม่พันธุ์สุกรในจีนลดลงซึ่งน่าจะมีสาเหตุจาก ราคาที่ตกต่ำในปี 2566 และ การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่ทำให้อุปทานของสุกรลดลง ราคาสุกรในเวียดนามอยู่ในขาขึ้นเพราะการระบาดของ ASF และ สถานการณ์การลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนค่อย ๆ ดีขึ้น

เราคาดว่าทิศทางราคาโภคภัณฑ์เป็นผลดีกับ CPF และ TFG มากขึ้นและน่าจะทำให้บริษัทมีกำไรเติบโตใน 2Q-3Q24 มากไปกว่านั้น CPF คาดว่าต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ในปี 2567 น่าจะต่ำกว่าปี 2566 ประมาณ 10% (Take profit : 4.18 / Stop loss : 4.00 )