HoonSmart.com>> ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่ง SBNEXT จัดให้มีระบบควบคุมภายในที่เพียงพอ มีกลไกลติดตามดูแลของกรรมการ-คณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและนโยบายที่กำหนด หลังผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเห็นงบ Q1/67 บริษัทไม่ได้ปฏิบัติตามเกณฑ์รายการเกี่ยวโยงกัน กรณีกู้ยืมเงินและนำสินทรัพย์บริษัทไปค้ำประกันให้กลุ่ม SABUY ,ใช้เงินกู้ไม่ตรงวัตถุประสงค์เป็นทุนหมุนเวียน ส่วนใหญ่นำไปซื้อหุ้น SABUY สั่งให้เปิดเผยข้อมูลภายใน 14 ส.ค.67
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งให้บริษัท สบาย คอนเน็กซ์ เทค (SBNEXT) ปรับปรุงระบบควบคุมภายในให้เพียงพอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามกฎหมายและนโยบายที่ได้กำหนดไว้ จากกรณีที่บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทยังไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์รายการที่เกี่ยวโยงกันกรณีการกู้ยืมเงินและนำสินทรัพย์ของบริษัทไปค้ำประกันให้กลุ่มบริษัท สบาย เทคโนโลยี (SABUY ผู้ถือหุ้นใหญ่ 24.92%) รวมทั้งได้นำเงินกู้ยืมไปลงทุนในหลักทรัพย์ซึ่งไม่ตรงตามวัตถุประสงค์การกู้เงิน โดยขอให้คณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบให้ความเห็นถึงความเพียงพอและเหมาะสมของระบบควบคุมภายในที่จะปรับปรุงดังกล่าว และเปิดเผยมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2567
ตามที่ผู้สอบบัญชีของ SBNEXT ไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินไตรมาส 1 ปี 2567 เนื่องจากมีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญของการดำเนินงานต่อเนื่อง และ SBNEXT ได้ชี้แจงข้อมูลตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สอบถามสรุปว่า บริษัทยังไม่ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์รายการที่เกี่ยวโยงกันกรณีการกู้ยืมเงินและนำสินทรัพย์ของบริษัทไปค้ำประกันให้กลุ่ม SABUY รวมทั้งได้นำเงินกู้ยืม 889 ล้านบาท (48% ของเงินกู้ยืมจากเจ้าหนี้ทุกกลุ่ม) ไปลงทุนในหลักทรัพย์ซึ่งไม่ตรงตามวัตถุประสงค์การกู้เงินที่กำหนดว่าใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและดำเนินงาน โดยส่วนใหญ่นำไปลงทุนในหุ้น SABUY (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของบริษัทวันที่ 14 และ 21 มิถุนายน 2567)
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวพิจารณาได้ว่าระบบควบคุมภายในของบริษัทยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะดูแลให้บริษัทปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ และนโยบายภายในของบริษัท ซึ่งการมีระบบควบคุมภายในที่เหมาะสมเพียงพอเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่บริษัทจดทะเบียนต้องดำรงสถานะ โดยที่คณะกรรมการตรวจสอบมีหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทในการสอบทานให้มีระบบควบคุมภายใน สอบทานให้บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ รวมถึงพิจารณารายการที่เกี่ยวโยงหรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ SBNEXT ปรับปรุงให้บริษัทมีระบบควบคุมภายในที่เพียงพอเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามกฎหมายและนโยบายที่ได้กำหนดไว้ โดยให้คณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบให้ความเห็นถึงความเพียงพอและเหมาะสมของระบบควบคุมภายในดังกล่าว และเปิดเผยการปรับปรุงระบบควบคุมภายในรวมถึงกลไกการติดตามดูแลของคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบ มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2567
ก่อนหน้านี้ SBNEXT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 บริษัทได้ดำเนินการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท โดยสถานะการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น 15 รายแรก ระหว่างไตรมาสที่ 1/2567 วันที่ 29 มีนาคม 2567 เปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2567 วันที่ 26 มิถุนายน 2567 มิได้ส่งผลกระทบต่อองค์ประกอบของคณะกรรมการและโครงสร้างการบริหารจัดการ รวมถึงการดำรงตำแหน่งของนายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ในฐานะตัวแทนของผู้ถือหุ้นใหญ่ทำหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องอำนาจและการบริหารจัดการในการดำเนินธุรกิจของบริษัทประการใด บริษัทฯจะแจ้งให้นักลงทุนทราบโดยเร็วต่อไป