ดัชนีกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์พุ่ง 7.07% หุ้นขึ้นยกแผงตาม Nasdaq

HoonSmart.com>>ดัชนีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิสก์พุ่ง 7.07% หุ้นในกลุ่มขยับขึ้นยกแผง นำโดย DELTA-KCE-HANA ขึ้นตามดัชนี Nasdaq หลังได้ผลบวกจากหุ้น NVIDIA ผู้ผลิตชิปในสหรัฐขึ้นตามกระแส AI จากความต้องการใช้ชิปที่มีมากขึ้น ด้านบล.กรุงศรี พัฒนสิน เชียร์”ซื้อ”HANA ภายใต้ภาพ Chip shortage ผ่อนคลายขึ้น-คาดกำไรปกติไตรมาส 2/66 โต

เมื่อเวลา 10.33 น.ดัชนีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พุ่ง 7.07% มาที่ 11,387.89 จุด เพิ่มขึ้น 751.71 จุด นำโดยหุ้น DELTA พุ่ง 7.39% มาที่ 94.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,989.32 ล้านบาท
หุ้น KCE บวก 3.27% มาที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 288.64 ล้านบาท
หุ้น HANA บวก 3.05% มาที่ 42.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 408.84 ล้านบาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวขึ้นยกแผงในช่วงเช้านี้ คาดว่าจะรับผลบวกจากหุ้น NVIDIA ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปให้สหรัฐ ปรับตัวขึ้น ตามกระแส AI จากความต้องการใช้ชิปที่มีมากขึ้น ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นตาม หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้อานิสงส์ไปด้วย

บล.กรุงศรี พัฒนสิน แนะนำหุ้น HANA ภายใต้ภาพของ Chip shortage ที่ผ่อนคลายขึ้น และ China reopening ดีต่อทั้งโรงงานจีน (20% ชองยอดขาย) และกลุ่มสินค้า Semiconductor – PCBA ในกลุ่มมือถือ รถยนต์ จะยังยืนระดับได้ดี บนโครงสร้างเศรษฐกิจโลกที่แนวโน้มเป็นถดถอย รวมถึง กลุ่ม EV ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยรวมมองกำไรปี 66 ที่ 1.7 พันล้านบาท (-19%y-y) ยังมี Upside risk ระยะสั้นคาดกำไรปกติไตรมาส 2/66 ที่ 370 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย q-q จากแนวโน้มยอดขาย และอัตราการใช้กำลังการผลิตฟื้นตัว

ด้าน Valuation มองราคาหุ้นปรับฐานลงมา เป็นจุดน่าซื้อกลับรอบใหม่ ราคาหุ้นซื้อขายบน PER66 ที่ 20 เท่า

ทั้งนี้ นโยบายพรรคก้าวไกลสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่ยังมีคู่แข่งน้อย เช่น การผลิตชิป Silicon carbide (SiC)ที่จะเป็น Game changer ของ Semiconductor จากคุณสมบัติ นำส่งกระแสไฟฟ้า เพิ่มประสิทธิภาพรถวิ่งได้ไกลกว่า, ชาร์จเร็วกว่าและคุณสมบัติ เป็นปัจจัยหนุนต่อบริษัทที่มีความพร้อมอย่าง HANA และความคาดหวังตลาดต่อการส่งออกต่ำ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจประเทศส่งออกหลักอย่างสหรัฐยังออกมาดี มองเป็น upside risk