หุ้นปิดร่วง 11.80 จุด การเมืองไม่ชัดเจนกดดัน ต่างชาติขาย 1.19 พันลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดร่วง 11.80 จุด สวนทางตลาดต่างประเทศ รับแรงกดดันจากความไม่ชัดเจนทางการเมือง-เฟดยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,193.42 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,343.93 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าแกว่งออกด้านข้าง รอความชัดเจนทางการเมือง แนวรับ 1,507-1,500 แนวต้าน 1,530 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 19 พ.ค.66 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,514.89 จุด ลดลง 11.80 จุด หรือ -0.77% มูลค่าซื้อขาย 47,318.45 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,530.47 จุด ต่ำสุด 1,512.66 จุด

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,193.42 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 313.31 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,343.93 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 837.20 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวลงสวนทางตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็เปิดในบวกได้ราว 0.4% โดยตลาดรับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศยังไม่ชัดเจน แม้จะมี Sentiment บวกจากความคาดหวังการจัดตั้งรัฐบาล

นอกจากนี้ ถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย และเงินดอลลาร์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินบาทที่อ่อนค่า รวมไปถึง Fund Flow ต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง ดังนั้นการลงทุนช่วงนี้จึงไม่สดใส ตลาดไปในทางถอยซึม ดังนั้นต้องรอดูคามชัดเจนการเมืองอีกสักระยะหนึ่ง

ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าให้ติดตามข้อตกลง MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนนอกประเทศให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิต และภาคบริการของหลายประเทศที่จะทยอยประกาศออกมา, ตัวเลข GDP ไตรมาส 1/66 ของสหรัฐ เป็นประมาณการครั้งที่ 2 และติดตามรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ของครั้งก่อน

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าตลาดคงจะแกว่งออกด้านข้าง รอความชัดเจนทางการเมือง พร้อมให้แนวรับ 1,507-1,500 จุด แนวต้าน 1,530 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
AOT ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ -1.75% มูลค่าซื้อขาย 2,119.97 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 61.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -1.20% มูลค่าซื้อขาย 1,964.37 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 89.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.71% มูลค่าซื้อขาย 1,649.69 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 28.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -2.61% มูลค่าซื้อขาย 1,600.10 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 132.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.12% มูลค่าซื้อขาย 1,380.77 ล้านบาท