HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้แนวรับที่ 1,295 และ 1,280 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,315 และ 1,330 จุด ตามลำดับ ลุ้นรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุนของภาครัฐ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด การเมืองและฟันด์โฟลว์ สัปดาห์ที่ผ่านมาต่างชาติยังคงขายหุ้นต่อเนื่องมากกว่า 10,680 ล้านบาท เงินไหลออกจากตลาดพันธบัตรไทย 8,609 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (24-28 มิ.ย.2567) ว่า ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,295 และ 1,280 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,315 และ 1,330 จุด ตามลำดับ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุนของภาครัฐ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ประเด็นการเมืองและทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนพ.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ของจีน ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. ของญี่ปุ่น ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของยูโรโซน
ในวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,306.41 จุด ลดลง 0.01% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 47,258.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.99% ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.93% มาปิดที่ระดับ 352.60 จุด
ดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวผันผวน แต่ฟื้นตัวกลับมาได้ช่วงท้ายสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง
หุ้นร่วงลงหลุดแนว 1,300 จุดตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ และแตะจุดต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 3 ปี 7 เดือนที่ 1,281.87 จุดในระหว่างสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเมือง ซึ่งส่งผลให้เกิดแรงเทขายทำกำไรในหุ้นทุกอุตสาหกรรม นำโดย กลุ่มแบงก์ซึ่งมีประเด็นกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการ อย่างไรก็ดี SET Index ขยับขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนหลักจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานรับอานิสงส์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มเทคโนโลยีตามทิศทางหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ
หุ้นกลับมายืนเหนือ 1,300 จุดได้อีกครั้งช่วงท้ายสัปดาห์ โดยมีปัจจัยบวกจากตัวเลขส่งออกเดือนพ.ค. ของไทยที่ขยายตัวดีกว่าคาด อานิสงส์จากรายงานข่าวว่ารัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ รวมถึงแรงซื้อคืนหุ้นก่อนที่มาตรการ Uptick Rule จะมีผลวันที่ 1 ก.ค. 2567 อนึ่งนักลงทุนต่างชาติยังคงมีสถานะขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องในสัปดาห์นี้
ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (24-28 มิ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 36.30-37.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลง ขณะที่ตลาดในประเทศรอติดตามประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยลบจากแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน
เงินบาททยอยแข็งค่ากลับมาช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าลงหลังตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด โดยเงินบาทมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมในช่วงท้ายสัปดาห์จากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก และตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ค. ของไทยที่ขยายตัว 7.2% YoY สูงกว่าตลาดคาดที่ 2.0% YoY และสูงกว่า 6.8% YoY ในเดือนเม.ย.
ในวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (14 มิ.ย. 67)
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 17-21 มิ.ย. 2567 นั้นขายสุทธิหุ้นไทย 10,680.29 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 8,609 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตรไทย 3,499 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 5,110 ล้านบาท)