HoonSmart.com>> บลจ.เกียรตินาคินภัทร มองเศรษฐกิจอินเดียยังแข็งแกร่ง มีศักยภาพในการเติบโต โอกาสสำหรับลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้พอร์ตในระยะยาว
นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานและศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ทั้งจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ค่าแรงและอายุเฉลี่ยของประชากรที่ต่ำ ฐานะทางการคลังกลับมาเกินดุล และค่าเงินผันผวนน้อยลง ตลาดหุ้นอินเดียจึงน่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว เนื่องจากผลประกอบการของหุ้นอินเดียมีอัตราการเติบโตสอดคล้องกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับสูง นักลงทุนต่างชาติให้น้ำหนักการลงทุนในอินเดียมากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และแม้ว่าปัจจุบันการลงทุนในหุ้นอินเดียของผู้ลงทุนในประเทศอินเดียเองยังอยู่ในระดับต่ำแต่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการออมที่เพิ่มขึ้นตามรายได้ของประชากร
บลจ.เกียรตินาคินภัทร จึงได้นำเสนอกองทุนเปิดเคเคพี อินเดีย เฮดจ์ (KKP INDIA-H) และกองทุนเปิดเคเคพี อินเดีย อันเฮดจ์ (KKP INDIA-UH) KKP INDIA-H และ KKP INDIA-UH เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนไทยที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว
สำหรับ กองทุน KKP INDIA-H และ KKP INDIA-UH ระดับความเสี่ยง 6 เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Feeder Fund มีนโยบายเน้นลงทุนในกองทุนหลัก Robeco Indian Equity ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม กองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินเดีย มีกลยุทธ์การเลือกลงทุนในหุ้นที่ยืดหยุ่น (Flexi Cap Strategy) คือ กองทุนเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ และสามารถลงทุนในหุ้นขนาดกลางได้ตามสถานการณ์เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับพอร์ตการลงทุน ตัวอย่างหุ้น 3 อันดับแรกที่กองทุนหลักลงทุน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2567) เช่น Infosys Ltd ผู้นำการให้คำปรึกษา และบริการด้าน IT ขนาดใหญ่ของอินเดีย HDFC Bank Ltd ธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย และ Reliance Industries Ltd บริษัทยักษ์ใหญ่ในอินเดีย มีธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจพลังงาน ปิโตรเคมี ร้านค้าปลีก บริการทางดิจิทัล สื่อ และพลังงานทางเลือก
กองทุน KKP INDIA-H จะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ส่วนกองทุน KKP INDIA-UH จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ