‘ซีอีโอปตท.’ ทบทวนแผนธุรกิจ-ลงทุนครั้งใหญ่ เสริมแกร่งยั่งยืนอย่างสมดุล กำไรดีขึ้น

HoonSmart.com>>”ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง” ซีอีโอ ปตท. (PTT) เปิด 4 วิสัยทัศน์บริหารธุรกิจให้เติบโตแบบยั่งยืนทุกมิติ  มีกำไรที่เหมาะสมและมั่นคง สร้างความเชื่อมั่น เตรียมเสนอบอร์ดทบทวนแผนลงทุนและธุรกิจของกลุ่ม คาดสรุปส.ค. นี้ เพื่อสร้างปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย-เติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืนควบคู่กับการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยถึง 4 วิสัยทัศน์ เพื่อสร้างปตท. ให้แข็งแรงร่วมกับสังคมไทยและเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน” หรือ “TOGETHER FOR SUSTAINABLE THAILAND, SUSTAINABLE WORLD” ดำเนินธุรกิจบนหลัก “ความยั่งยืนในทุกมิติอย่างสมดุล” ให้เหมาะกับองค์กรทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี

ทั้งนี้ ปตท.จะต้อง Revisit มีการทบทวนแผนธุรกิจและแผนการลงทุนครั้งใหญ่ การลงทุนจะต้องปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อโลกที่ผันผวนและเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว จะต้องระมัดระวังดูแลเรื่องกระแสเงินสดและสภาพคล่องด้วย คาดเสนอให้คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) พิจารณาในเดือนก.ย.และน่าจะเห็นความชัดเจนของแผนงานต่างๆ ได้ประมาณเดือนส.ค.นี้ ซึ่งต้องเกิดประโยชน์กับองค์กร ประเทศและโลก ทิศทางและกลยุทธ์ มุ่งให้ ปตท. เป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติ สร้างความมั่นคง  ต้องมองถึงผู้มีส่วนได้เสียอย่างครบถ้วนและสมดุล สร้างการเติบโตทางธุรกิจ ควบคู่กับการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างสมดุล เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593

“วิสัยทัศน์ในเรื่องการบริหารแบบยั่งยืนในทุกมิติ ต้องมีกำไรที่เหมาะสมและยั่งยืน ส่วนเรื่องการลงทุน ธุรกิจใดดี มีกำไร จะต้องมีข้อมูลและการคิดให้ถ้วนแต่ช้าไม่ได้ ต้องเร่งต่อยอดขยายผลเพิ่มโอกาส ส่วนธุรกิจที่เคยดี หรือดีน้อยลง ก็ต้องหาทางออก ต้องมีพาร์ทเนอร์ที่เก่งกว่า สินทรัพย์ที่มีอยู่มาก ต้องบริหาร การทำธุรกิจจะต้องตัวเบา เพิ่มประสิทธิภาพให้ต้นทุนลดลง เพิ่มอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน(ROI) ”

นอกจากนี้ ปตท.มีบริษัทในเครือจำนวนมาก มีลูกที่แข็งแรงจะต้อง synergy ใช้พลังความร่วมมือในกลุ่ม สร้าง leverage ธุรกิจให้เกิดประโยชน์เป็นรูปธรรม  สร้างความแตกต่าง ประเมินความแข็งแรงที่จะไปเล่นหรือไม่ เพราะคู่แข่งใหญ่ขึ้นและกระจายอยู่ทั่วโลก เช่น จะต้องใช้จุดแข็งของบริษัทปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR ในการมี Ecosystem ทำให้กำไรที่ตามมาจะมั่นคง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน การสื่อสารต้องจริงใจ ชัดเจน เข้าถึงง่ายและเข้าใจง่าย

ส่วนทิศทางและกลยุทธ์ของกลุ่มปตท.ประกอบด้วย 5 แนวทาง ได้แก่ 1. ยกระดับความสามารถทางการแข่งขันให้กับธุรกิจที่มีอยู่เดิม ผ่านการทำธุรกิจให้แข็งแรง ปรับ Portfolio โดยหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ ต่อยอดสร้างการเติบโตในเรื่องที่ถนัดแบ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ Hydrocarbon and Power ประกอบด้วย ธุรกิจสำรวจและผลิตสร้างความต่อเนื่อง มั่นคงทางวัตถุดิบ จัดหาแหล่งใหม่ที่มีต้นทุนต่ำ สร้างผลตอบแทนที่ดี และต้องสร้างการเติบโต Hydrocarbon ควบคู่กับการทำ Decarbonization

ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจเดิม ซึ่งต้องมีความ Competitive และ Lean แสวงหา Alternative Source ทั้ง Pipe gas และ LNG และมีต้นทุนที่แข่งขันได้ และต้อง Alignment การทำงานร่วมกับภาครัฐ ส่วนธุรกิจไฟฟ้า ภารกิจหลักคือการสร้างความมั่นคง และรักษา Reliability ให้กับกลุ่ม ปตท. พร้อมกับการจัดหาพลังงานสะอาดเพื่อช่วย Decarbonization & Net Zero ของกลุ่ม ปตท. และแสวงหาโอกาสสร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ

ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น สร้างความแข็งแรง เติบโตร่วมกับ Strategic Partner รวมทั้ง Competitiveness ด้าน Cost & Feedstock Flexibility ต้องมีการ Synergy Enhancement and Optimization ทั้งกลุ่ม ปตท. รวมถึงการมุ่งเน้นสร้างการเติบโตใน High Value & Low Carbon Business

ส่วนธุรกิจ Non Hydrocarbon ทิศทางไปถูกต้องแล้ว สร้าง New S-curve เกิดธุรกิจใหม่ สอดคล้องกับโกลบอล เมกะเทรนด์  กลยุทธ์ที่ทำเรื่อง EV  เฮลแคร์และดิจิตอล แต่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บางเรื่องไม่ใหม่แล้วต้องแก้ คนตระหนักถึงสุขอนามัยใช้พลังงานสะอาด นำความเร็วของ AI มาใช้ เรื่อง EV จะต้องวิเคราะห์ เข้าใจ Value Chain ทั้งหมด เลือกเล่นในส่วนที่เหมาะสม ธุรกิจ Life Science ร่วมมือกับพันธมิตรสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ ธุรกิจ Industrial AI ต้องยกระดับ ขยายผลทั้งกลุ่ม ปตท. ช่วยให้ธุรกิจเดิมเข้มแข็ง และต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่

2. สร้างการเติบโต หาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ต่อยอดสร้างการเติบโต โดยเฉพาะด้านความยั่งยืน คือ ธุรกิจไฮโดรเจนและคาร์บอน  สร้างการเติบโตต่อยอดจากเป้าหมาย Decarbonization มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบบูรณาการทั้งกลุ่ม ปตท. โดยกำหนดบทบาทหน้าที่ชัดเจนและมีเป้าหมายร่วมกัน ใช้จุดแข็งของทุกบริษัทในกลุ่ม โดยมี ปตท. เป็นผู้กำกับดูแลภาพรวม ร่วมผลักดันและขับเคลื่อนให้สำเร็จเป็นโอกาส Transform ธุรกิจเดิมของกลุ่ม ปตท. ให้มี Advantage เพิ่มขึ้น และสามารถพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่

3. สร้างความชัดเจนในแนวทางความยั่งยืนทุกมิติ ด้วยการบูรณาการเข้าไปในธุรกิจ ผสานการบริหารจัดการ Portfolio และ Net Zero เข้าด้วยกันทั้งกลุ่ม ปตท. มุ่งสู่การเป็น Net Zero Company ควบคู่กับการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว และสร้างคุณค่าสู่สังคม ผ่านแนวทาง ปรับ Portfolio การลงทุนและปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความยืดหยุ่น สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ลดการใช้พลังงาน เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด และ ชดเชยคาร์บอน ด้วยเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) และโครงการปลูกป่า

4. สร้างปัจจัยที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ สร้างประสิทธิภาพการดำเนินงานที่เป็นเลิศ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถ เนื่องจากมีปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ จึงควรมุ่งเน้นทำสิ่งที่ควบคุมได้อย่างเข้มข้น ต้องสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน  ลดต้นทุน โดยการยกระดับ Operation & Efficiency ด้วยการนำเทคโนโลยี ดิจิทัล และ AI มาประยุกต์ใช้ โดยมีแผนงานและเป้าหมายที่ชัดเจน และขยายผลทั่วทั้งกลุ่ม ปตท. อีกทั้ง ต้องทำ Lean Organization ร่วมกับ Digital Transformation ซึ่งต้องเริ่มในวันที่องค์กรยังแข็งแรง จัดลำดับความสำคัญ เริ่มทำโครงการที่เห็นผลลัพธ์เร็ว เพื่อให้เกิดการยอมรับในทุกระดับ และต้องสร้างความเข้มแข็งด้าน Culture สร้างความตระหนัก ปลูกฝังให้พนักงานกล้าที่จะปรับและพร้อมที่จะเปลี่ยนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

5. รักษาพื้นฐานสำคัญ มุ่งเน้นธรรมาภิบาลและการกำกับกิจการที่ดี บริหารองค์กรด้วยความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ยึดถือ Way of Conduct อย่างเคร่งครัด รวมถึงการบริหารบุคลากร ด้วยความยุติธรรม โปร่งใส สร้าง Ecosystem ส่งเสริมคนดีและคนเก่งให้เติบโตอย่างเหมาะสม รวมถึงการมีความเป็นเลิศทางด้านการเงิน (Financial Excellence) ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการดำเนินธุรกิจ

ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปตท. ต้องปรับตัว มีความคล่องตัว และมุ่งมั่นรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต ควบคู่ไปกับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย พร้อมมุ่งสู่การเติบโตขององค์กรในระดับโลกอย่างยั่งยืนต่อไป