BTS วางงบลงทุนปี 67/68 ราว 5.2 พันลบ. ปีนี้คาดขาดทุนจากสายสีชมพู-เหลือง

HoonSmart.com>>”บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์”(BTS)เล็งรายได้ปี 67/68 กว่า 20,000 ล้านบาท คาดใช้เงินลงทุน 5,200 ล้านบาท จาก 3 ธุรกิจ MOVE-MIX-MATCH โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพู-สายสีเหลืองยังเผชิญผลขาดทุนอยู่ อย่างไรก็ดี บริษัทคงมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง กระแสเงินสดเพิ่มจากภาครัฐ และบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพจากการมองต้นทุนดอกเบี้ยคงจะไม่ปรับขึ้นไปอีก ส่วน BTSGIF มีโอกาสลงทุนเพิ่มหาก BTS ได้ต่อสัญญาสัมปทาน พร้อมแผนปรับปรุงรถไฟฟ้าในช่วง 4-5 ปีนี้ อาจทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

นายสรัล ศรีวีระสกุล ผู้จัดการส่วนพัฒนาธุรกิจอาวุโส บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานปี 2567/2568 โดยธุรกิจ MOVE ฺ คาดว่าจะมีรายได้รวม 12,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากดอกเบี้ย และส่วนการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูยังมีส่วนของการก่อสร้างที่เชื่อมเข้าไปในเมืองทองธานีคิดว่าจะมีการบันทึกรายได้อีกประมาณ 800 ล้านบาท ในส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียวคาดว่าถึงสิ้นปีหน้าจำนวนผู้โดยสารจะมี 230 ล้านเที่ยว

ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาสายละเกือบ 1,000 ล้านบาท โดยได้เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งบริษัทจะได้รับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐ 48,000 ล้านบาท เป็นเวลา 10 ปี ซึ่งปีแรกได้รับมาแล้ว 4,800 ล้านบาท ปัจจุบันรถไฟฟ้าทั้งสองสายนี้ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน ทำให้บริษัทยังต้องเผชิญกับผลขาดทุนอยู่ พร้อมคาดว่า MOVE Business จะใช้เงินลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท

ทั้งนี้ กทม.ได้มีการจ่ายหนี้ส่วนการให้บริการติดตั้งงานระบบและจัดหารถไฟฟ้า (E&M) มาแล้วเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาจำนวน 23,000 ล้านบาท แต่ก็ยังมีหนี้ส่วนการเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ค้างอยู่ คิดว่าในช่วงปีข้างหน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น

ส่วนของธุรกิจ MIX มอง VGI คาดว่าจะมีรายได้ 6,000-6,500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท และจากการที่ลดการลงทุนในบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) หรือ KEX เหลือสัดส่วนลงทุนแค่ 3% ดังนั้นไม่น่าจะมีผลกระทบต่องบการเงินในช่วงปีข้างหน้า

สำหรับธุรกิจ MATCH มอง บริษัท ธนูลักษณ์ (TNL) เป็นตัวที่สร้างรายได้เข้ามา โดยคาดว่า TNL จะมีรายได้ประมาณ 2.8 พันล้านบาท เติบโต 10% YoY ส่วนของพอร์ตโฟลิโออสังหาริมทรัพย์ (Property) น่าจะมีมูลค่า 33,000 ล้านบาท ทั้งนี้ธุรกิจ MATCH คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 3,500 ล้านบาท

“ภาพใหญ่มองเศรษฐกิจไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลัก ๆ มาจากการบริโภค และการลงทุน บีทีเอสมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง กระแสเงินสดเพิ่มจากภาครัฐ แม้จะเห็นผลขาดทุนจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายเหลือง แต่จำนวนผู้โดยสารก็เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการชำระหนี้จากภาครัฐเข้ามาด้วย อีกทั้งบริษัทมีการบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการมองต้นทุนดอกเบี้ยคงจะไม่ปรับขึ้นไปแล้ว”

น.ส.ศิริเพ็ญ หวังดำรงเวศ ผู้จัดการกองทุน กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เปิดเผยว่า ทางกองทุนมีโอกาสที่จะลงทุนเพิ่ม ถ้า BTS ได้รับการต่อสัญญาสัมปทาน ก็ต้องรอดูว่าจะต่อสัญญาสัมปทานได้หรือเปล่า ส่วนค่าใช้จ่ายปัจจุบันใน 4-5 ปีข้างหน้ามีแผนจะปรับปรุงรถไฟฟ้าก็ได้เริ่มทำตั้งแต่ปีนี้แล้วใช้เวลาทำ 4-5 ปี