ผู้บริหาร DEXON ยันไม่ขายหุ้น ปิดบุ๊กสถาบันส่วนใหญ่กอด IPO แน่น

HoonSmart.com>>ซีอีโอ”เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี (DEXON)” ไม่ทราบสาเหตุทุบหุ้นร่วงหนัก -36% ยืนยันผู้ถือหุ้นใหญ่-ผู้บริหารไม่ได้ทิ้ง ส่วนหุ้น IPO ที่ขายนักลงทุนสถาบันมากกว่า 30% ปิดบุ๊ก 12 เม.ย. พบมีบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งขาย ส่วนวิริยะประกันภัย กองทุนของบลจ. ทาลิสยังอยู่ มีนักลงทุนสถาบันขอคุยแผนการใช้เงิน ภาพรวมธุรกิจ สร้างความมั่นใจ ด้านบอร์ดประชุม 5 พ.ค. เคาะแผนลงทุนและอนุมัติเงินลุยยุโรป-สหรัฐ เดินหน้าตามไฟลิ่ง 

นางมัลลิกา แก่กล้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี (DEXON) กล่าวถึงกรณีที่ราคาหุ้น DEXON ปรับตัวลงแรงถึง-36.44% ปิดที่ระดับ 2.86 บาท จากราคาขาย IPO ที่ 4.50 บาท ไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น DEXON ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หรืออาจจะเป็นไปตามภาพรวมของตลาด โดยขอยืนยันว่าผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้ขายหุ้นออกแต่อย่างใด

ทั้งนี้หลังจากหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2566 บริษัทได้มีการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น (ปิดบุ๊ก) ได้ข้อมูลวันที่ 12 เม.ย.2566 พบว่า การเสนอขายให้ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 123.18 ล้านหุ้น สัดส่วน  25.85%ของหุ้นทั้งหมด จัดสรรเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันมากกว่า 30% ยอมรับว่ามีบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งขายหุ้นออกไปแล้ว ขณะที่บริษัทวิริยะประกันภัยที่เข้ามาซื้อ IPO จำนวน 7.4 ล้านหุ้น หรือ 1.55% และบลจ. ทาลิสที่จัดสรรหุ้นให้กับกองทุนภายในกลุ่ม ยังไม่ได้ขายหุ้นออกแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง บริษัทฯยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผนที่ระบุไว้ในไฟลิ่ง โดยวันที่ 5พ.ค.2566 คณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) จะมีการประชุมนัดพิเศษ พิจารณาแผนและเงินลงทุนในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งในส่วนยุโรปได้จัดตั้งบริษัทที่เนเธอร์แลนด์เรียบร้อยแล้ว หลังบอร์ดอนุมัติการลงทุน ก็พร้อมเปิดให้บริการขยายตลาดในยุโรป สำหรับที่สหรัฐจะมีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท พร้อมเปิดให้บริการ คาดปีนี้มีรายได้ 750 ล้านบาท รายได้โต 15-20% ต่อเนื่องใน 4-5 ปี ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก มีการเติบโตที่ดี บอร์ดจะพิจารณาอนมัติงบการเงินในวันที่ 10 พ.ค.นี้

” หลังหุ้น DEXON เข้าตลาด นักลงทุนสถาบันที่ซื้อหุ้น IPO ได้ขอพบผู้บริหาร ถามเรื่องแผนการใช้เงิน IPO และภาพรวมธุรกิจ เพื่อขอความมั่นใจ เรื่องการขยายธุรกิจตามแผนออกไปลงทุนยังประเทศสหรัฐ และยุโรป โดยไม่ถามเรื่องราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงเลย”นางมัลลิกากล่าว

ก่อนหน้านี้ บล.ทิสโก้ มองหุ้น DEXON  เป็นผู้นำสำหรับกลุ่มทั้งในด้านการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง และแบบพื้นฐาน โดยมีส่วนแบ่งรายได้ 300-400 ล้านบาท จากประมาณการ 3,000 ล้านบาท ของตลาดในประเทศ เติบโตต่อเนื่องจากปี 2563-2565 ที่ CAGR 14% ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ผู้บริหารมองเป็นเป้าหมายในการเติบโต ซึ่งในปี 2565 รายได้จากการตรวจสอบด้วยเทคฯขั้นสูงในต่างประเทศเติบโตกว่า 100% จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อการรุกเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตรากำไรที่สูงกว่า และการขยายสาขาจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการให้บริการและดันอัตรากำไรสุทธิให้สูงขึ้นได้

อย่างไรก็ตามแนวโน้มการเติบโตระยะยาวสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรฯ ค่อนข้างจำกัดแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นเพิ่มขึ้นหลังปี 2567 จึงประเมินมูลค่าเหมาะสมไว้ที่ 5.3 บาทที่ P/E 24.03 เท่า

ด้านราคาหุ้น DEXON นับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาด  ราคาลงไปต่ำสุดที่ 2.52 บาท ก่อนจะเด้งปิดที่ระดับ 2.86 บาท เทรดที่ P/E เพียง 12.96 เท่าเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2566ที่ผ่านมา