หุ้นปิดบวก 4.87 จุด เงินเฟ้อไทยออกมาต่ำ ต่างชาติขาย 1.8 พันลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดบวก 4.87 จุด ฟื้นตัวจากภาคเช้าหลังเงินเฟ้อไทยต่ำสุดในรอบ 16 เดือน หนุนกลุ่มการบริโภค-การเงิน นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,719.54 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 881.34 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าขึ้นอยู่กับผลประชุมเฟด และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ แนวรับ 1,500-1,520 แนวต้าน 1,540-1,555 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 3 พ.ค.66 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,533.30 จุด เพิ่มขึ้น 4.87 จุด หรือ +0.32% มูลค่าซื้อขาย 54,974.69 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,533.90 จุด ต่ำสุด 1,507.22 จุด

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,895.66 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 57.46 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 881.34 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 2,719.54 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงบ่ายนี้รีบาวด์ขึ้นมาได้จากภาคเช้าที่ปรับตัวลงไปจากความกังวลภาคธนาคารในสหรัฐ และสหรัฐเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ตลาดผันผวน โดยดัชนีฯลงไปต่ำสุด 1,507 จุด ก่อนฟื้นตัวในภาคบ่าย หลังจากที่เงินเฟ้อของไทยออกมาต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ทำให้ไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มการบริโภค อย่างกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มการเงิน ขณะที่กลุ่มพลังงานได้แรงถ่วงจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง

นอกจากนี้ ยังได้แรงซื้อเก็งผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะออกมาในคืนนี้ ซึ่งเก็งจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด และมีสัญญาณหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ (4 พ.ค.) และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ (5 พ.ค.)

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าทิศทางตลาดขึ้นอยู่กับผลประชุมเฟด และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ โดยสัปดาห์หน้าให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐ, ตัวเลขเงินเฟ้อของจีน และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 พ.ค.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,500-1,520 จุด แนวต้าน 1,540-1,555 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT ปิดที่ 30.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -1.61% มูลค่าซื้อขาย 2,313.21 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 145.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -2.02% มูลค่าซื้อขาย 2,129.22 ล้านบาท
KTB ปิดที่ 18.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ +1.10% มูลค่าซื้อขาย 1,993.78 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 76.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,958.83 ล้านบาท
SCC ปิดที่ 325.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท หรือ +2.85% มูลค่าซื้อขาย 1,608.61 ล้านบาท