ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 574 จุด ดัชนี PCE ออกมาตามคาด

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 574 จุด ดัชนี PCE สอดคล้องคาดการณ์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง มีหวังเฟดปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบลดลง 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 31 พ.ค. 2567 ปิดที่ 38,686.32 จุด เพิ่มขึ้น 574.84 จุด หรือ +1.51% หลังการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ให้ความสำคัญสอดคล้องกับที่คาดการณ์

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,277.51 จุด เพิ่มขึ้น 42.03 จุด หรือ +0.80%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,735.02 จุด ลดลง 2.06 จุด หรือ -0.01%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.98% เป็นการปิดลบสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ลดลงหลังบวกต่อเนื่องนาน 5 สัปดาห์ โดยดัชนี S&P500 ลดลง 0.51% และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.1%

แม้จะเป็นสัปดาห์ที่ไม่สดใส แต่ในเดือนพฤษภาคม ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 2.3%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 4.8% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 6.88% เป็นเดือนที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี เท่ากับตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่า 2.7% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่า 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด

ข้อมูล PCE อาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับเฟดว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่เฟดต้องการก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

นอกจากนี้รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ และรายได้ก็ชะลอตัวเช่นกันในเดือนเมษายน

การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐก็เพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่า 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด และรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หลังจากรายงาน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงเหลือ 4.50% จาก 4.55% ในช่วงท้ายของวันพฤหัสบดี หลังพุ่งขึ้นสูงสุด 4.60% เมื่อต้นสัปดาห์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี ซึ่งสะท้อนการคาดการณ์การดำเนินการของเฟด ลดลงเหลือ 4.87% จาก 4.93% ช่วงปลายวันพฤหัสบดี

แทบไม่มีใครคาดหวังว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปซึ่งจะมีขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ครึ่ง แต่จากข้อมูล CME Group เทรดเดอร์ให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในสิ้นปีนี้

คริส ซัคคาเรลลีi ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Independent Advisor Alliance กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของสัปดาห์นี้ ไม่เบี่ยงเบนไปจากความคาดหวังมากนัก และตลาดคลายกังวลหลังจากรายงานดังกล่าว

เทรดเดอร์ยังตอบสนองต่อผลประกอบการล่าสุดของบริษัทอีกด้วย หุ้นเดลล์ เทคโนโลยีส์ ร่วงลงกว่า 17% แม้กำไรจะแข็งแกร่งหลังจากที่บอกว่า backlog ของเซิร์ฟเวอร์ AI น้อยกว่าที่คาดไว้

หุ้น Gap พุ่ง 28.6% เป็นหนึ่งในหุ้นที่ปรับขึ้นมากสุด หลังรายงานรายได้และกำไรที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดในไตรมาสแรก

ตลาดยุโรปปิดบวกหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่ชะลอตัว ทำให้เกิดความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ขณะที่ความน่าจะเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนสำหรับยูโรโซนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้เงินเฟ้อในภูมิภาคจะสูงเกินคาดก็ตาม

ดัชนี STOXX 600 ยังคงลดลงเป็นสัปดาห์ที่สอง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนพุ่งสูงขึ้น ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐด้วยความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนปรับตัวสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงเผชิญกับความล่าช้าและไม่แน่นอนในการควบคุมราคา

อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนในเดือนพฤษภาคมเร่งตัวขึ้น และสูงเกินการคาดการณ์ไป 0.1% ซึ่งไม่ใช่การเบี่ยงเบนที่มีนัยสำคัญ และน่าจะยังช่วยให้ ECB เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้

ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า
ข้อมูลอีกชุดแสดงให้เห็นว่ายอดค้าปลีกของเยอรมนีลดลงเกินคาดในเดือนเมษายน ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์เนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของเยอรมนี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานยูโรโซน เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนและอยู่ที่ 2.66%

หุ้นแอร์บัสลดลง 2% หลังจากแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมกล่าวว่าบริษัทกำลังเผชิญกับแรงกดดันใหม่จากแผนเพิ่มการผลิตเครื่องบินโดยสารตามแผน

หุ้น Saab บริษัทผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศสวีเดนพุ่งขึ้น 5.6% หลังได้รับคำสั่งซื้อมูลค่า 7.7 พันล้านคราวน์ (727 ล้านดอลลาร์) จากประเทศตะวันตกที่ไม่ปรากฏชื่อ

ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 518.17 จุด เพิ่มขึ้น 1.67 จุด, +0.32%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,275.38 จุด เพิ่มขึ้น 44.33 จุด, +0.54%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,992.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.36 จุด, +0.18%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,497.94 จุด เพิ่มขึ้น 1.15 จุด, +0.01%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 92 เซนต์ หรือ 1.18% ปิดที่ 76.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 81.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล