HoonSmart.com>>ทริสฯลดเครดิตองค์กร “สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น” จาก “BBB+” เป็น “BB-” ความน่าเชื่อถือต่ำ การโล๊ะบอร์ดทั้งชุด บ่งชี้ถึงความรุนแรงของปัญหาในการบริหารภายใน บริษัทยังไม่สามารถชี้แจงถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ส่วนการขอเลื่อนส่งงบการเงินปี 65 ออกไปครั้งที่ 3 ทำให้เกิดข้อสงสัยที่มากมายยิ่งขึ้น เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของงบการเงินในอดีต และการไม่ส่งงบตามเวลาที่กำหนด ถือว่าเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ รอมติ 28 เม.ย. หากไม่ยกเว้นเหตุผิดนัด ต้องชำระคืนทั้งหมดในทันที อาจปรับลดเรทติ้งลงสู่ระดับ “C” หรือ “D”
บริษัททริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น (STARK)” เป็น “BB-” จาก “BBB+” ในขณะที่ยังคง “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” เช่นเดิม
ทั้งนี้เรทติ้ง BB- หมายถึงความน่าเชื่อถือต่ำ กลุ่มตราสารหนี้ระดับเก็งกำไร (Speculative GradeBonds ) ส่วนเรทติ้ง BBB ความน่าเชื่อถืออยู่ในเกณฑ์พอใช้ กลุ่มตราสารหนี้ระดับน่าลงทุน (Investment grade bonds)
ทริสระบุว่า การปรับลดอันดับเครดิต STARK ครั้งนี้ สืบเนื่องจากการประกาศของบริษัทเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2566 ว่าบริษัทขอเลื่อนการนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 เป็นครั้งที่ 3 โดยคาดว่าจะจัดส่งได้ภายในเดือนมิ.ย.2566 นอกจากนี้ บริษัทยังได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัททั้งชุดและผู้บริหารที่สำคัญ รวมไปถึงการแต่งตั้ง นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ในมุมมองของทริส การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริษัททั้งชุดนั้น ได้บ่งชี้ถึงความรุนแรงของปัญหาในการบริหารภายในบริษัท ซึ่งจนถึงปัจจุบัน บริษัทยังไม่สามารถชี้แจงถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในบริษัทได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ การขอเลื่อนส่งงบการเงินออกไปอีกนั้น ทำให้เกิดข้อสงสัยที่มากมายยิ่งขึ้น เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของงบการเงินในอดีตของบริษัท
ผลจากการที่บริษัทไม่สามารถจัดส่งงบการเงินได้ตามเวลาที่กำหนด ถือว่าเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้ ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นกู้จะมีการจัดประชุมในวันที่ 28 เม.ย. 2566 เพื่อพิจารณาการยกเว้นเหตุผิดนัดจากการส่งงบการเงินล่าช้า ในกรณีที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้มีมติไม่ยกเว้นเหตุผิดนัดดังกล่าว ผู้ถือหุ้นกู้มีสิทธิในการประกาศเหตุผิดนัดตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ และมีสิทธิเรียกร้องให้หนี้ทั้งหมดภายใต้หุ้นกู้ถึงกำหนดชำระในทันที ในกรณีเช่นนี้ ทริสเรทติ้งอาจปรับลดอันดับเครดิตของบริษัทลงสู่ระดับ “C” หรือ “D” ขึ้นอยู่กับผลการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 เม.ย.2566 นี้