ราคาน้ำมันดิบฟื้น ความต้องการใช้จากจีนมากกว่าคาด

ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว หลังอุปสงค์จีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โอเอกลดกำลังการผลิต

บริษัทไทยออยล์ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังความต้องการใช้น้ำมันจากประเทศจีนมีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าที่คาดไว้ โดยปริมาณการกลั่นน้ำมันดิบของจีน ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ 12.49 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 11.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังโรงกลั่นเอกชนและโรงกลั่นแห่งใหม่ 2 โรงของจีนเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น

ส่วนกลุ่มโอเปกความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มมาอยู่ที่ 111% ในเดือน ก.ย. ลดลงจากเดือน ส.ค.ที่ 129% หลังกลุ่มโอเปกและรัสเซียได้ทยอยเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับปริมาณการผลิตที่หายไปจากอิหร่านและเวเนซุเอลา

Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นราว 4 แท่นมาอยู่ระดับ 873 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ข้างหน้า

นักลงทุนได้ลดการถือครองสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาด NYMEX ที่นิวยอร์ก และ ICE ที่ลอนดอนลง โดยล่าสุดสัญญาน้ำมันดิบสุทธิ (Net Long Position) ปรับลดลงลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ที่ราว 259,375 สัญญา

“ปัจจัยที่ต้องจับตา ความต้องการใช้ของโลกลดลง ล่าสุด IEA ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั้งในปีนี้และปีหน้าลงกว่า 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คาดจะเพิ่มขึ้นกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ย. นี้” บริษัทไทยออยล์ระบุ

ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์นี้ ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 67-72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 78-83 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล