HoonSmart.com>>หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวลงทั่วหน้า นำโดย BGRIM หลังที่ประชุมคณะอนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) มีมติปรับลดค่าไฟฟ้าสำหรับงวดพ.ค.-ส.ค.66 ตามข้อเสนอ กฟผ. โดยปรับลดลงมาที่ 4.70 บาท/หน่วย จากเดิม 4.77 บาท/หน่วย บล.ทรีนีตี้ มองโรงไฟฟ้า SPP จะเสียผลประโยชน์มากที่สุด ด้านบล.ดาโอ ประเมินปรับลดจากเดิมราว -1% กระทบมาร์จิ้นของโรงไฟฟ้าจำกัด
เมื่อเวลา 15.24 น.หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวลงทั่วหน้า นำโดยหุ้น BGRIM ลบ 3.90% มาที่ 37.00 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 493.47 ล้านบาท
หุ้น TSE ลบ 2.70% มาที่ 2.16 บาท ลดลง 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 5.65 ล้านบาท
หุ้น SSP ลบ 2.13% มาที่ 9.20 บาท ลดลง 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 7.27 ล้านบาท
หุ้น GPSC ลบ 1.57% มาที่ 62.75 บาท ลดลง 1.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 272.03 ล้านบาท
หุ้น GULF ลบ 1.46% มาที่ 50.75 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่่าซื้อขาย 1,069.55 ล้านบาท
ล่าสุดมีข่าวออกมาว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) มีมติเห็นชอบปรับลดค่าไฟฟ้าสำหรับงวดพ.ค.-ส.ค.66 ตามข้อเสนอของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.70 บาท/หน่วย จากเดิม 4.77 บาท/หน่วย คาดว่าจะเสนอคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาอีกครั้งภายในวันจันทร์หน้า (24 เม.ย.)
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) มีมุมมองเป็นลบเล็กน้อย การปรับลดค่าไฟฟ้าจาก 4.77 บาท/หน่วย เป็น 4.70 บาท/หน่วย เป็นการปรับลดจากเดิมราว -1% ประเมินผลกระทบต่อ margin ของโรงไฟฟ้าจำกัด อย่างไรก็ตามระดับค่าไฟฟ้าในปัจจุบันที่ยังสูงกว่าระดับที่ตลาดคุ้นชินที่ 3-4 บาท เชื่อว่าจะมีแรงกดดันให้ กกพ. ปรับลด ค่าไฟฟ้าในอนาคตต่อไปและเป็น negative sentiment ให้กับกลุ่ม
อย่างไรก็ตามประเมินผลประกอบการในปี 2566 ยังฟื้นตัวได้ และ margin โดยรวมไม่แย่ แบบปี 2565 เนื่องจากการปรับค่า Ft ยังมี positive gap จากการคืนนี้ให้ กฟผ. เป็นปัจจัยหนุน โดยยังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มโรงไฟฟ้า “มากกว่าตลาด” และเลือก SSP (ซื้อ/เป้า 14.00 บาท) เป็น Top pick
บล.ทรีนีตี้ มีมุมมองเชิงลบกับการพิจารณาลดค่า FT ของ กกพ. งวดพ.ค.-ส.ค.โดยโรงไฟฟ้า SPP จะเสียผลประโยชน์มากที่สุด คาดว่าค่า FT ใหม่จากการยืดหนี้คงค้างของกฟผ. จะอยู่ที่ 93.28 สตางค์ต่อหน่วย ลดลงจากประกาศเดิม 5 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งการลดลงของค่า FT 1 สตางค์ต่อหน่วยจะทำให้กำไรของ GPSC และ BGRIM ลดลง 63 และ 24 ล้านบาทต่อปี
ดังนั้นถ้าเป็นไปในกรณีนี้จริง คาดการณ์กำไรปีนี้ของ GPSC และ BGRIM จะลดลงจากเดิม 314 ล้านบาท และ 120 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.2% และ 5.5% จากประมาณการเดิม กระทบราคาเป้าหมาย 0.1 บาท และ 0.04 บาทต่อหุ้น ถ้ามองแค่ปัจจัยนี้ มองว่า ตลาด Overreact มากเกินไป