SELIC ทุ่ม 1 พันล้าน ซื้อ 2 บริษัทต่อยอดธุรกิจ

SELIC ซื้อกิจการ 2 บริษัทกลุ่ม PMC ผู้ผลิตสติกเกอร์ใช้กาวเป็นวัตถุดิบหลัก เติบโตก้าวกระโดด เพิ่มกำไร 886% จากเดิม สินทรัพย์โตเท่าตัว เสริมธุรกิจของบริษัท และเพิ่มอำนาจการแข่งขันในและต่างประเทศ

บริษัท ซีลิค คอร์พ (SELIC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2561 อนุมัติให้บริษัทเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นทั้งหมดใน บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ (PMCT) จากนาย ตัน ยง เฮง และผู้หุ้นเดิมอีกสองราย รวมเป็นเงิน 945 ล้านบาท และหุ้นทั้งหมดใน บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ พีทีอี ลิมิเตด (PMCS) ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ จากนาย ตัน ยง เฮง และนางสาว ตัน ซู ลัง จำนวน 105 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,050 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.2562

สำหรับแหล่งเงินทุนในการซื้อหุ้นกลุ่ม PMC มาจากเงินสดในมือและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินไม่เกิน 900 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้สถาบันการเงินได้อนุมัติวงเงินกู้แล้ว และวงเงินทุนหมุนเวียนสำหรับบริษัท PMCT เมื่อเข้าซื้อหุ้นแล้วไม่เกิน 252 ล้านบาท โดยคณะกรรมการบริษัทอนุมัติในหลักการและเงื่อนไขแล้วไม่เกิน 252 ล้านบาท

ปัจจุบัน PMCT เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสติกเกอร์ในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยใช้กาว กระดาษ และฟิล์ม เป็นวัตถุดิบหลัก ขณะที่ PMCS เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสติกเกอร์ในประเทศในสิงคโปร์และต่างประเทศ โดยจะสั่งซื้อสติกเกอร์สำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูปจาก PMCT และนำไปผลิตต่อตามคำสั่งซื้อของลูกค้า

“การซื้อกิจการครั้งนี้ ทำให้บริษัทมียอดขายและกำไรที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนเพิ่มฐานลูกค้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนัง อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมรถยนต์ เป็นต้น ได้กว้างขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีสำนักงานในประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานของบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศได้ง่ายขึ้น” บริษัทระบุ

นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสในการต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวและผลิตภัณฑ์สติกเกอร์ เช่น กาวชนิด UV-curable กาวประเภท PU based laminating สติกเกอร์ทนความร้อน สติกเกอร์ประเภท removable เพิ่มความสามารถในการผลิตและการแข่งขันของบริษัท และยังเพิ่มโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์รวมถึงการให้บริการที่ครอบคลุมความต้องการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ธุรกิจที่ได้มามีลักษณะคล้ายคลึงกันหรือเสริมกันและกัน กับธุรกิจของบริษัท ใน Value Chain ของอุตสาหกรรมกาว บริษัทจะทำหน้าที่ในการจัดหาวัตถุดิบ คิดค้นและพัฒนาสูตรกาวเฉพาะที่เหมาะแก่การใช้งานในแต่ละประเภทให้กับลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรม โดยจะครอบคลุมไปถึงลูกค้าในอุตสาหกรรมเคลือบผิว เช่น ธุรกิจผลิตสติกเกอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในตลาดฉลากบรรจุภัณฑ์ รวมถึงช่วยเพิ่มการใช้กำลังการผลิต ของบริษัทสำหรับผลิตภัณฑ์กาวน้ำ และผลิตภัณฑ์กาวหลอมร้อน เนื่องด้วยกาวเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับการผลิตสติกเกอร์ของกลุ่มกิจการ

คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อให้มีการอนุมัติการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของการใช้เงินเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ก่อนหน้านี้ ซึ่งปัจจุบันมีเงินคงเหลือ 53.53 ล้านบาท โดยจะปรับแผนการใช้เงินเพิ่มทุนจากเดิมลงมาเหลือเพียงเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

การเข้าซื้อหุ้นของกลุ่ม PMC มีขนาดรายการสูงสุด 886.55% ของกำไรสุทธิของบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องการได้มาและจำหน่ายไปอย่างมีนัยสำคัญจึงต้องขออนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์และที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 พร้อมแต่งตั้งที่ปรึกษาการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นและจัดส่งให้สำนักงานก.ล.ต.

ทั้งนี้ บริษัทกำหนดให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่1/2561 ในวันที่ 14 ธ.ค.2561 เพื่อพิจารณาการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว และเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนไอพีโอ