SCC เลื่อนขายหุ้น SCGC 4 ต.ค.66 รอสถานการณ์เอื้อ

HoonSmart.com>>บริษัทปูนซิเมนต์ไทย(SCC) เจอปัจจัยลบ แจ้งเลื่อนขายหุ้น IPO บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) เป็น  4 ต.ค.66 ระบุสถานการณ์ยังไม่เหมาะสม ทั้งเศรษฐกิจ วิกฤตราคาพลังงาน ภาวะเงินเฟ้อ ตลอดจนภาวะตลาดเงินและตลาดทุน ส่วน “เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP)”ถูกเคจีไอ หั่นราคาเป้าหมายลงเหลือ 50 บาท จาก 60 บาท บล.หยวนต้าคงเป้าหมาย 56 บาท อยู่ในช่วงของการฟื้นตัว คาดกำไรปกติไตรมาสแรก 907 ล้านบาท ไตรมาสที่ 2 ประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท ครึ่งปีหลังดีดกลับ 2,000 ล้านบาท/ไตรมาส

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย(SCC) เปิดเผยว่า สำนักงานก.ล.ต.ได้อนุมัติให้บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์(SCGC)เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2565 บริษัทฯ ได้ยื่นขอขยายระยะเวลา IPO และได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 ให้ขยายระยะเวลา IPO ออกไปถึงวันที่ 4 ต.ค. 2566

บริษัทได้พิจารณาถึงความเหมาะสมในการเสนอขายหุ้นและนำหุ้นของ SCGC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้องรวมถึงสถานการณ์ภายนอกต่างๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ วิกฤตราคาพลังงาน และภาวะเงินเฟ้อ ตลอดจนภาวะตลาดเงินและตลาดทุน บริษัทฯ เห็นว่ายังไม่เหมาะสมจะดำเนินการขายหุ้น SCGC

สำหรับบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ราคาหุ้นปรับตัวลงปิดที่ระดับ 44.75 บาท -0.50 บาทหรือ -1.10% ณ วันที่ 12 เม.ย.2566 หลังจากบล.เคจีไอ(ประเทศไทย) คงคำแนะนำ ถือ และปรับราคาเป้าหมายลงอยู่ที่ 50 บาท (จาก 60 บาท) อิงจาก EV/EBITDA ที่ 10.5 เท่า เพื่อสะท้อนความผันผวนของกำไรระยะสั้นที่ดีกว่า ถึงแม้ว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว แต่คาดราคาหุ้นจะยังไม่ไปไหนจากการปรับลดกำไรลงของตลาดและมุมมองที่เฝ้าดูไปก่อนของนักลงทุน

บล.หยวนต้า คงคำแนะนำซื้อ SCGP คงราคาเป้าหมายที่ 56 บาท มี Upside +23.8% ราคาหุ้นมี Downside จำกัดแล้ว กำไรอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวคาดกำไรปกติไตรมาสแรก/66ที่ 907 ล้านบาทฟื้นตัวเด่น QoQ จากปริมาณขายที่ฟื้นตัวตามภาคการผลิตของจีนและอาเซียน รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ฟื้นตัว หลังต้นทุนวัตถุดิบ พลังงาน และการขนส่งเริ่มปรับตัวลง ขณะที่ YoY คาดกำไรปกติลดลงจากฐานที่สูงในปีก่อน  ส่วนไตรมาสที่ 2/2566 เบื้องต้นคาดกำไรปกติที่ 1,400-1,500 ล้านบาท ฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ ตามนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน (ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ฟื้นตัวตามการบริโภค) คาดกำไรปกติฟื้นตัวกลับไปอยู่ในระดับ 2,000 ล้านบาท/ไตรมาสได้ในช่วงครึ่งปีหลัง จากภาคการผลิตในจีนและอาเซียนมีแนวโน้มฟื้นตัวกลับไปอยู่ในระดับใกล้เคียงปกติ