หุ้นเช้านี้บวก 0.37 จุด กลุ่มพลังงานหนุนหลังราคาน้ำมันดีดขึ้น

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 0.37 จุด แกว่งตัว-วอลุ่มเทรดบางก่อนหยุดยาวช่วงสงกรานต์ กลุ่มพลังงานหนุนหลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น และได้แรงหนุนจากคาดจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลัง CPI ชะลอตัว

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 12 เม.ย.2566 ณ เวลา 9.59 น.อยู่ที่ระดับ 1,597.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด หรือ +0.02% มูลค่าซื้อขาย 850.66 ล้านบาท

บล.กรุงศรี มอง SET แกว่งตัว 1,590 – 1,610 จุด ได้แรงหนุนจากคาดการณ์จีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลัง CPI เดือนมี.ค.ชะลอตัวลงโดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% YoY รวมถึงราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ และการติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศในวันนี้ จึงแนะนำ Selective buy เช่นเดิม

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index แกว่ง Sideways to Sideways Up ต่อเนื่องโดยมีแนวต้าน 1,600-1,610 จุด รอทดสอบ อย่างไรก็ตามมูลค่าการซื้อขายคาดยังเบาบางเนื่องจากคาบเกี่ยววันหยุดสงกรานต์ และตลาดต่างรอจับตาตัวเลขเงินเฟ้อทั้ง CPI และ PPI ของสหรัฐฯคืนนี้และคืนพรุ่งนี้ ด้าน IMF ขยับ GDP Growth ปี 2566 ลงเล็กน้อยเหลือ +2.8% แต่ยังสูงกว่า World Bank ที่คาด +1.7% อยู่มากพอสมควร

ส่วนปัจจัยในประเทศยังดูแข็งแรงกว่า ล่าสุดัชนีความเชื่อผู้บริโภคของไทยเดือน มี.ค. ฟื้นตัวต่อเนื่องสู่ระดับ 53.8 และคาดทยอยไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับปกติก่อนเกิดโควิด-19 ที่ราว 70-80 ในระยะถัดไป โฟกัสของตลาดในครึ่งเดือนหลังของ เม.ย. จะเริ่มหันมาที่ผลประกอบการไตรมาส 1/66 ของบริษัทจดทะเบียนมากขึ้นจากการเริ่มประกาศกำไรกลุ่มธนาคารและการทยอยคาดการณ์ฝั่ง Real Sector ขณะที่การหาเสียงเลือกตั้งจะคึกคักมากขึ้นช่วยหนุนการจับจ่ายใช้สอย โดยรวมยังมองหุ้น Domestic Play จะยัง Outperform Global Play ได้ต่อเนื่องจากความเสี่ยงภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังจำกัด Upside ระยะสั้นเน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและคาดกำไรไตรมาส 1/66 ออกมาแข็งแกร่ง

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
TISCO อยู่ที่ 101.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 84.94 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 135.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 79.00 ล้านบาท
BDMS อยู่ที่ 30.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.82% มูลค่าซื้อขาย 56.48 ล้านบาท
PTT อยู่ที่ 31.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.79% มูลค่าซื้อขาย 48.82 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 161.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +0.94% มูลค่าซื้อขาย 47.47 ล้านบาท