HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ดคาดดัชนี SET เคลื่อนไหวกรอบ แนวรับ 1,585 – 1,590 แนวต้าน 1,600 – 1,605 จุด แนะเก็งกำไรหุ้น BBL, SCB คาดกำไรฟื้นตัวดี หุ้นได้อานิงส์อุปโภคพื้นตัวจากท่องเที่ยว แนะ CPALL, MAKRO, AOT, ERW หุ้น BCH,CHG รับสปช.ปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวประกันสังคม +10.24% มีผล 1 พ.ค.นี้ พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้ชู GULF , KLINIQ
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัขนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,585 – 1,590 แนวต้าน 1,600 – 1,605 แนะนำซื้อเก็งกำไร BBL, SCB คาดกำไรฟื้นตัวดี QoQ,YoY) หุ้น CPALL, MAKRO, AOT, ERW ปัจจัยหนุนจากอุปโภคฟื้นตัวจากภาคท่องเที่ยว หุ้น BCH,CHG รับสปช.ปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวประกันสังคม +10.24% มีผลวันที่ 1 พ.ค.
หุ้นแนะนำนวันนี้ ได้แก่ GULF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 59.75 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q66 ลดลง QoQ ตามฤดูกาลของโครงการ Wind Farm ทั้งไทยและต่างประเทศ แต่ YoY ยังเติบโตดีอยู่หลังตามโครงการโรงไฟฟ้า GSRC (Unit 4 – 662.5 MW) ที่เริ่ม COD ใน 4Q65 ส่วนแนวโน้ม 2Q66 จะกลับมาเติบโตเนื่องจากเป็น High Season ของโรงไฟฟ้าในประเทศ
นอกจากนี้ยังมีกำลังการผลิตส่วนเพิ่มของโครงการ Jackson Generation สหรัฐฯ เข้ามาเต็มไตรมาส รวมถึงโรงไฟฟ้า GPD (Unit 1 – 662.5 MW) เริ่ม COD ส่วนในช่วงที่เหลือของปีจะมีการทยอย COD โครงการ GPD (Unit 2 – 662.5 MW) ในเดือน ต.ค.66 และโครงการในโอมาน เวียดนาม อื่นๆ อีกราว 300 MW
หุ้น KLINIQ (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 43.25 บาท) ประมาณกำไรสุทธิ ปี66 และ ปี67 จะยังเติบโตขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 255 ล้านบาท( +24.13%YoY) และ 334 ล้านบาท (+30.96%YoY) ตามลำดับ โดยมีปัจจัยหนุนจาก1.การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องโดยในปีนี้เราคาดว่าทาง KLINIQ จะเปิดสาขา KLINIQUE 4 สาขา และ L.A.B.X. 6 สาขา รวมเป็น 10 สาขา(คาดจะเปิดได้ 4 สาขาใน 1H66) 2.การเติบโตทางรายได้ของศูนย์ศัลกรรมที่ยังมี capacity ในการรองรับผู้ใช้บริการได้อีกมาก คาดว่าภายในสิ้นปี occ. rate จะขยับขึ้นไปที่ระดับ 60% 3. GPM ที่คาดว่าจะสูงขึ้นจากการเข้าใช้บริการที่สูงขึ้น และแบรนด์ L.A.B.X. ที่มีมาร์จิ้นที่สูง