ธุรกิจแห่ออกหุ้นกู้ยาว 2.7 แสนลบ. ลุยขายนักลงทุนทั่วไป Q1/66

HoonSmart.com>>สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) แถลงไตรมาส 1/66 เศรษฐกิจฟื้นตัว ภาคเอกชนออกหุ้นกู้ระยะยาว  2.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% เสนอขายนักลงทุนทั่วไปสัดส่วน 43% สูงขึ้นจาก 28% ในปี 65 มูลค่าคงค้างตราสารหนี้ขยายตัว 2.0% ต่างชาติขายสุทธิ 2.3 หมื่นล้านบาท มียอดถือครอง 1.05 ล้านล้านบาท สัดส่วน 6.5% เผย AT2 คงค้างรวม 1.7 แสนล้านบาท จาก 23 รุ่นที่ 8 แบงก์ออก การซื้อขายไม่ผิดปกติ  หลังเกิดเหตุการณ์ความไม่มั่นใจใน AT1 ในต่างประเทศ เผยผลสำรวจแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นอีก 1 ครั้ง อยู่ที่ 2.00% 

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ตลาดตราสารหนี้เติบโตได้ต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 ขยายตัว 2.0% จากสิ้นปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 16.1 ล้านล้านบาท เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลและภาคเอกชนเป็นสำคัญ

ด้านการออกตหุ้นกู้ระยะยาว เท่ากับ 2.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีการเสนอขายหุ้นกู้ต่อนักลงทุนทั่วไป (PO: Public Offering) ในสัดส่วน 43% ของยอดการออกรวม สูงขึ้นจาก 28% ในปี 2565

สำหรับ Basel III Bond ที่มีการออกและเสนอขายในประเทศเป็นประเภท AT2 ทั้งหมด  ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2566 มีมูลค่าคงค้างรวม 1.7 แสนล้านบาท จาก 23 รุ่น ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ไทย 8 แห่ง ซึ่งมีเงินกองทุนและสถานะของธนาคารในด้านต่างๆ ที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้เหตุการณ์ความไม่มั่นใจใน AT1 ในต่างประเทศไม่ได้ส่งผลให้เกิดการซื้อขายที่ผิดปกติของตราสารหนี้ประเภทดังกล่าวในประเทศไทย

ส่วนกระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ในเดือน ม.ค. เข้าซื้อสุทธิต่อเนื่องจากสิ้นปีที่แล้ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นการขายสุทธิในเดือนก.พ.จากความกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดภายหลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานที่สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวได้ดี และในเดือนมี.ค.กลับเข้าซื้อสุทธิจากความกังวลในเหตุการณ์ธนาคารของสหรัฐฯ และยุโรป โดยรวมทั้งไตรมาส 1ต่างชาติมียอดการขายสุทธิสะสมที่ 2.3 หมื่นล้านบาท   ณ สิ้นไตรมาส 1 มียอดการถือครอง 1.05 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6.5% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย อายุคงเหลือเฉลี่ย 7.8 ปี ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อนหน้า

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย (Government bond yield curve) ในไตรมาส 1 มีความชัดลดลง โดยรุ่นอายุไม่เกิน 5 ปี ปรับตัวสูงขึ้นตามการคาดการณ์การปรับขึ้นอัดราดอกเบี้ยนโยบาย ในขณะที่รุ่นอายุมากกว่า 5 ปี ลดลงจากคาดการณ์เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มต่ำลง โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 Bond yield ไทยรุ่นอายุ 2 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 18 bps. จากสิ้นปีที่แล้วมาอยู่ที่ 1.81% ส่วน Bond yield 10 ปี ปรับตัวลดลง 23 bps. มาอยู่ที่ 2.41%

อัตราผลตอบแทนหุ้นกู้ อายุ 5 ปีค่อนข้างทรงตัวในไตรมาส 1  อายุ 5 ปี สูงขึ้น 2-14 bps. ในทิศทางเดียวกันกับพันธบัตรรัฐบาล ยกเว้นกลุ่มอันดับเครดิต AA ที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดย ณ สิ้นไตรมาส 1  อันดับเครดิต AAA ปรับตัวมาอยู่ที่ 2.76% AA ที่ 2.97% A ที่ 3.28% BBB+ ที่ 4.45% และBBB ที่ 5.05%

ดร.สมจินต์ ยังกล่าวถึงผลสำรวจการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของผู้ร่วมตลาดในรอบนี้ที่ส่วนใหญ่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งไปสู่ระดับ 2.00% คาดว่า Bond yield รุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี จะปรับตัวสูงขึ้นจาก ณ สิ้นไตรมาส 1 เฉลี่ยประมาณ 20 bps. ในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปี  ตามทิศทางการคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ และไทย โดยปลายปีคาดว่า Bond yield 5 ปี จะขยับขึ้นไปที่ 2.18% และ 10 ปี ขยับขึ้นไปที่ 2.61%

ด้านน.ส. อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) ได้เปิดตัวหลักสูตรเรียนรู้ออนไลน์ “Investor e-learning platform” เพื่อเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับการลงทุนตราสารหนี้ให้แก่ประชาชนและผู้สนใจได้ศึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ครอบคลุมสาระความรู้ที่สำคัญที่ถูกออกแบบให้เนื้อหาเข้าใจง่าย แบ่งเป็น module ต่างๆ ให้นักลงทุนเลือกเรียนได้ตามหัวข้อที่ต้องการ