KKP กำไรไตรมาส 3 หด 10% งวด 9 เดือนโต 4%

“ธนาคารเกียรตินาคิน” ไตรมาส 3 กำไรสุทธิ 1,551 ล้านบาท ลดลง 10% จากงวดปีก่อน แต่ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ส่วน 9 เดือน กำไร 4.6 พันล้านบาท เติบโต 4% จากงวดปีก่อน สินเชื่อขยายตัว

ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2561 มีกำไรสุทธิ 1,551.02 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.83 บาท ลดลง 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,723.18 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.04 บาท ส่วนงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 4,614.97 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 5.45 บาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 4,432.29 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 5.23 บาท

ทั้งนี้ผลงานไตรมาส 3/61 ถือว่าทรงตัวเมื่อเทียบไตรมาส 2/61 ที่มีกำไรสุทธิ 1,551 ล้านบาท โดยสินเชื่อของธนาคารยังขยายตัวต่อเนื่อง 3.5% จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้สินเชื่อโดยรวมของธนาคารขยายตัว 14.1% จากสิ้นปี 2560 โดยขยายตัวในสินเชื่อทุกประเภท ด้านคุณภาพของสินเชื่อ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง ณ สิ้นไตรมาส 3/61 อยู่ที่ 4.2% ลดลงจาก 5% สิ้นปี 2560

ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ย 4,201 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตของสินเชื่อ โดยรายได้ดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 19.7% ขณะที่รายได้จากเช่าซื้อและสัญญาการเงินเพิ่มขึ้น 5.9% โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 2,910 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% มีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 1,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายรวมมีจำนวน 2,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ณ วันที่ 30 ก.ย.2561 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งเงินกองทุนทั้งสิ้นได้รวมกำไรถึงงวดครึ่งแรกของปี 2561 หลังหักเงินปันผลจ่าย อยู่ที่ 16.36% โดยเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 12.85% แต่หากรวมกำไรถึงสิ้นไตรมาส 3/2561 จะส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับ 17.03% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 13.52%

ด้านธุรกิจบริหารหนี้ ธนาคารขายทรัพยร์อการขายได้จำนวน 295 ล้านบาท และมีกำไรจากการขายทรัพยร์อการขาย 144 ล้านบาท ในส่วนของธุรกิจตลาดเงินสามารถทำรายได้จำนวน 94 ล้านบาทในไตรมาส 3/2561 ทางด้านบริษัทหลักทรัพย์ภัทร มีส่วนแบ่งตลาด(SET และ mai ไม่รวมบัญชีซื้อขายหลกัทรัพยข์องบริษัทอยู่ที่ 4.2% ซึ่งเป็นอันดับ 8 จากจำนวนบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด 38 แห่ง