HoonSmart.com>>”บีซีพีจี” บุกลงทุนสหรัฐฯรวม 577 MW หลังเซ็นสัญญาซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเพิ่มอีก 2 โครงการ ใช้เงินลงทุน 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,919 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้น 25% กำลังการผลิตรวม 1,705 เมกะวัตต์ ทำให้มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 426 เมกะวัตต์ สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ทันที
นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา BCPG USA Inc. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา จำนวน 2 โครงการ ใช้เงินลงทุน 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,919 ล้านบาท คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 426 เมกะวัตต์ จำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรีพีเจเอ็ม (PJM) ตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ และครอบคลุมการขายไฟฟ้ากว่า 13 รัฐ ในสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ฮามิลตั้น ลิเบอร์ตี้ (ลิเบอร์ตี้) มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 848 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ เขตอไซลัม (Asylum) รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านการเข้าซื้อหุ้น 25% ของฮามิลตั้น โฮลดิ้ง ทำให้บีซีพีจีถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าลิเบอร์ตี้ทางอ้อม 25% คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ เท่ากับ 212เมกะวัตต์
โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ฮามิลตั้น เพทรีออต มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 857 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ เขตคลินตัน (Clinton) รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านการเข้าซื้อหุ้น 25% ของฮามิลตั้น โฮลดิ้ง ทำให้บีซีพีจีถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าเพทรีออตทางอ้อม ในสัดส่วน 25% คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ เท่ากับ 214 เมกะวัตต์ ทั้งนี้เมื่อรวมกับการเข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้บีซีพีจีมีกำลังการผลิตในสหรัฐอเมริการวม 577 เมกะวัตต์
”การเข้าลงทุนครั้งนี้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติดังกล่าวเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2559 ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ทันทีภายหลังจากการเข้าลงทุน” นายนิวัติกล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการมีความได้เปรียบสูงในการแข่งขันเพื่อประมูลขายไฟฟ้าในตลาดไฟฟ้าเสรี PJM ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการการใช้ไฟฟ้าสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตต่ำเมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติอื่นในตลาด กล่าวคือ เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติที่ใช้เทคโนโลยี พลังงานความร้อนร่วม Combined Cycle Gas Turbines หรือ CCGT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้กังหันก๊าซและกังหันไอน้ำร่วมกันเพื่อผลิตไฟฟ้า ทำให้การผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ทำเลที่ตั้งของโรงไฟฟ้า อยู่ใกล้แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ (Marcellus Shale Gas) ทำให้เข้าถึงก๊าซธรรมชาติได้ในราคาต่ำกว่าภูมิภาคอื่นของประเทศ
สำหรับ ฮามิลตั้น โฮลดิ้ง เป็นบริษัทในเครือ คาร์ลาย กรุ๊ป กลุ่มกองทุนที่จัดการโดยบริษัทการลงทุนกองทุนระดับโลก และ บริหารจัดการโดยบริษัทโคเจนทริกซ์ เอนเนอร์ยี่ แมเนจเม้นท์ (โคเจนทริกซ์) ซึ่งคาร์ลาย กรุ๊ป และโคเจนทริกซ์ มีทรัพย์สินภายใต้การบริหารกว่า 10,000 เมกะวัตต์ ทั่วสหรัฐอเมริกาจึงมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเป็นอย่างดี
“บีซีพีจี ยังคงมุ่งมั่นขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด การลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติควบคู่กับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ตอบสนองความต้องการการใช้ไฟฟ้าของประชาชนอย่างเพียงพอ ช่วยรักษาสภาพแวดล้อม และสร้างความยั่งยืนให้กับโลกของเรา” นายนิวัติกล่าวทิ้งท้าย