HoonSmart.com>> BIG เจอ BIG “ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR)” ร่วมทุน”บุญรอดฯ “นำจุดแข็งทั้งสองฝ่ายตั้งบริษัท ผลิตและจำหน่ายกาแฟสด-ชาพรีเมี่ยมสำเร็จรูปพร้อมบริโภค บรรจุลงขวดเป็นครั้งแรก บุกตลาดโมเดิร์นเทรด เจาะคนรุ่นใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วนและครอบคลุมยิ่งขึ้น “คาเฟ่ อเมซอน”ต่อยอดธุรกิจ จากการขายเครื่องดื่มกว่า 300 ล้านแก้วต่อปี เห็นโอกาสโตเร็วของ กาแฟดริป แคปซูล สกัดเย็น ตลาดกาแฟสดมีมูลค่า 400-500 ล้านบาท ปีแรกคาดว่าจะขายกาแฟได้ 8 ล้านขวด ชา 10 ล้านขวด ทั้งสองบริษัทกำลังศึกษาต่อยอดธุรกิจเพิ่ม
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) และ นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง พร้อมผู้บริหาร ร่วมเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ “กาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่ อเมซอน” และ “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” บุกตลาดโมเดิร์นเทรด วางขายในเซเว่น-อีเลฟเว่น และออนไลน์
นายดิษทัตกล่าวว่า OR ได้ร่วมกับ บุญรอดฯ ซึ่งมีความชำนาญในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มครบวงจร จัดตั้งบริษัท ดริ้ง เอนเทอร์ไพรซ์ ร่วมทุนโครงการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมบริโภค (Ready To Drink) และวันนี้พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ โดย OR ยินดีที่จะแนะนำให้คอกาแฟรู้จัก กาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่ อเมซอน นำจุดแข็งของ OR ที่เชี่ยวชาญในการรังสรรค์เครื่องดื่มรูปแบบคาเฟ่มานานกว่า 20 ปี และเสิร์ฟผู้บริโภคชาวไทยกว่า 300 ล้านแก้วต่อปี มาบรรจุลงขวดเป็นครั้งแรก มีจุดเด่นคือการนำเสนอความพิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดกาแฟที่ดีมีคุณภาพ ผ่านกระบวนการคั่ว และการสกัดกาแฟร้อนเพียง 27 วินาที สูตรเฉพาะของ คาเฟ่ อเมซอน เพื่อคงความเข้มข้น ให้ได้รสชาติ กลิ่นแท้ ๆ ของกาแฟ มอบประสบการณ์ความรู้สึกในการดื่มที่ใกล้เคียงกับกาแฟสดที่ร้าน คาเฟ่ อเมซอน ทั้งคุณภาพ กลิ่น รสชาติ และความรู้สึกของการดื่มกาแฟในทุกมิติ ตอบโจทย์คอกาแฟที่ต้องการความสะดวกสบายให้สามารถหาซื้อกาแฟที่ดื่มได้ทันทีที่ต้องการ
การดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมบริโภคร่วมกับบุญรอดเทรดดิ้งฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม (กลุ่ม Lifestyle) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ OR ในการสร้างพันธมิตรเพื่อหาโอกาสขยายธุรกิจ (Strategic Alliance) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเครื่องดื่มของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วนและครอบคลุมยิ่งขึ้น (All Lifestyles) อีกทั้งยังสอดคล้องกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR หรือ OR SDG ในด้านการสร้างโอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ (D – DIVERSIFIED) ผ่านศักยภาพของ OR ที่จะเป็น Platform ในการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
“เป็นจุดเริ่มต้นในการนำซินเนอร์จี้ นำจุดแข็ง ของทั้ง 2 บริษัท และจุดเด่นที่มีความแตกต่างมาเสริมซึ่งกันและกัน ทำให้มีความเข้มแข็ง และมีขบวนการคิดรอบคอบ มีการวิจัยมานานก่อนที่จะนำสินค้าออกสู่ตลาด”นายดิษทัตกล่าว
ด้านนายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง เปิดเผยว่า บุญรอดฯ มีประสบการณ์และความชำนาญในการทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มยาวนานก้าวสู่ปีที่ 90 ไม่เคยหยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพตอบสนองผู้บริโภค โดยบริษัทบุญรอดฯมีแบรนด์สินค้าคุณภาพที่ครองใจผู้บริโภคอันดับ 1 หลากหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มสิงห์ น้ำแร่เพอร์ร่า โซดาสิงห์ สิงห์ เลมอน โซดา ฯลฯ และในปี 2565 ที่ผ่านมา เป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทในการมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า ด้วยการร่วมมือกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก นำความเชี่ยวชาญ จุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่ายสร้างการเติบโตไปด้วยกัน และในปีนี้ได้ออก 2 ผลิตภัณฑ์ คือ “กาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่ อเมซอน” และชาเขียวพร้อมดื่ม “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” เสิร์ฟกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับผลิตภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่ม “ฮารุ” นำความเชี่ยวชาญของสิงห์ ที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชาครบวงจรชั้นนำของเมืองไทยมาต่อยอดสู่เครื่องดื่มชาเขียวระดับพรีเมียม ที่มีกระบวนการสกัดชาผ่านกรรมวิธี Cold Brew ซึ่งให้ความสำคัญด้านอุณหภูมิและเวลาสกัดที่นานกว่าชาทั่วไป 2 เท่า สร้างความแตกต่างในตลาดและทำให้ได้เอกลักษณ์ของชาเขียวอย่างเต็มรสชาติ นอกจากนี้วัตถุดิบใบชายังผ่านการคัดสรรยอดอ่อนใบชาสายพันธุ์คุณภาพเกรดพรีเมียม ที่ปลูกอย่างพิถีพิถันด้วยกรรมวิธีเฉพาะจากแหล่งปลูกที่ถูกยอมรับในระดับโลก ทั้งนี้ ชาเขียวพร้อมดื่ม “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่รักสุขภาพ รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ไปคาเฟ่ มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ และดื่มด่ำช่วงเวลาแห่งความสุข เรียบง่ายผ่านการดื่มชาสไตล์ Cold Brew ที่มีความหอมนุ่มละมุน มีมิติของรสและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์
กาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่ อเมซอน เปิดตัวสู่ตลาดด้วย 3 รสชาติ ได้แก่ อเมซอนแบล็ค ราคาจำหน่ายขวดละ 29 บาท อเมซอนเอสเปรสโซ่ และอเมซอนลาเต้ ราคาจำหน่ายขวดละ 35 บาท โดยมาในรูปแบบขวดขนาด 200 มิลลิลิตร ส่วนชาเขียวพร้อมดื่ม “ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที” มาในรูปแบบขวดขนาด 440 มล. มี 2 รสชาติ ได้แก่ สูตรปราศจากน้ำตาล (Natural) และสูตรหวานน้อย (Mild Sweet) ราคาจำหน่าย ขวดละ 30 บาท โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์จะจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นแห่งแรก จากนั้นจะขยายสู่ช่องทางห้าง ค้าปลีก และช่องทางอื่น ๆ ต่อไป
นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ OR กล่าวว่า การนำจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย ทำให้ถึงเป้าหมายเร็วขึ้น โดย OR เห็นโอกาสทางธุรกิจ จากการขายกาแฟดริป แคปซูล สกัดเย็น ที่เติบโตสูงมาก และตลาดกาแฟสดก็เติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันตลาดมีมูลค่า 400-500 ล้านบาท ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก เมื่อพิจารณาตลาดรวมของเครื่องดื่มกาแฟมูลค่า 2.6 หมื่นล้านบาท ในปีแรกคาดว่าจะขายกาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่ อเมซอน จำนวน 8 ล้านขวด นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกันในอนาคต
” เราออกกาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่ อเมซอน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป คนพร้อมดื่มกาแฟสดตลอด แต่ด้วยข้อจำกัดของ ร้านคาเฟ่ อเมซอนปิด 1-2 ทุ่ม ทำให้คนรุ่นใหม่ ที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากดื่มกาแฟสดพรีเมี่ยมเข้าถึงได้ทุกเวลา โดย 3 เดือนแรก นับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2566 ขายผ่านสาขา เซเว่น-อีเลฟเว่น ก่อนขยายไปโมเดิร์นเทรด ออนไลน์”
นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง กล่าวว่า ในปีนี้ตั้งเป้าจะขาย ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที ได้ 10 ล้านขวด คาดจะถึงเป้าหมายได้ไม่ยาก จากการใช้จุดแข็งของทั้งสองฝ่าย บุญรอดฯมีระบบโลจิสติกส์ ขายสินค้าผ่านร้านชำกว่า 2 หมื่นแห่ง ส่วน อเมซอนมีอำนาจซื้อเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ มีร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นอยู่ในสถานีบริการ
ทั้งนี้ การตั้งเป้ายอดขายกาแฟพร้อมดื่ม คาเฟ่ อเมซอน จำนวน 8 ล้านขวด และขาย ฮารุ โคลด์บรูว์ กรีนที 10 ล้านขวด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท รวมสองปีคาดว่าจะได้ยอดขายประมาณ 1,200 ล้านบาท