ดาวโจนส์บวก 323 จุด กลุ่มเทคโนโลยีนำ

HoonSmart.com>>3 ตลาดหุ้นสหรัฐบวกแรงเกิน 1% ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 323 จุด กลุ่มเทคโนโลยีนำ หุ้นธนาคารเพิ่มขึ้นด้วย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 3.57% นักลงทุนให้น้ำหนัก 60.8% ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. ด้านตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้น   กลุ่มธนาคารเด่น 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 29 มีนาคม2566 ปิดที่ 32,717.60 จุด เพิ่มขึ้น 323.35 จุด หรือ 1% จากการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาคธนาคารปิดบวก

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,027.81จุด เพิ่มขึ้น 56.54 จุด, 1.4%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,926.24 จุด เพิ่มขึ้น 210.16 จุด, 1.8%

ด้านกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นและส่งผลให้ดัชนี S&P 500 กลับไปที่ระดับ 4,000 จุด ขณะที่ให้ดัชนี Nasdaq 100 เพิ่มขึ้นดีที่สุดของไตรมาสนับตั้งแต่ปี 2020 จากการที่ Micron Technology Inc วิ่งขึ้น 7% หลังคาดการณ์ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งไตรมาสนี้

การปรับขึ้นของ Micron Technology Inc Western Digital ยังส่งผลให้ราคาหุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 2% และหุ้น AMD เพิ่มขึ้น 1.6%

หุ้นเมตาแพลตฟอร์มสเพิ่มขึ้นกว่า 2% หุ้นแอปเปิลบวกราว 2% หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้นกว่า 3%

กลุ่มธนาคารยังปรับขึ้น นักลงทุนเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นต่อเนื่องหลังฟื้นตัวจากวิกฤติการเงินในกลุ่มธนาคาร ขณะที่ยังหันไปจับตาข้อมูลเงินเฟ้อในวันพฤหัสบดี

ปีเตอร์ ชีร์ จาก Academy Securities กล่าวว่า ความกังวลต่อความปลอดภัยของเงินฝากลดลง อยางไรก็ตามนักวิเคราะห์ หันไปจับตาเศรษฐกิจและการรายงานผลการดำเนินงานที่กำลังจะเริ่ม

หุ้นธนาคารภูมิภาคปรับตัวขึ้น โดยหุ้น First Western บวก หุ้นธนาคารใหญ่ธนาคารซิตี้กรุ๊ป และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ต่างเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้การปรับขึ้นของกลุ่มธนาคารยังมาจากการที่บรรษัทเงินทุนค้ำประกันเงินฝาก เตรียมที่จะกดดันให้ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐเข้าช่วยเหลือรวมมูลค่า 23 พันล้านดอลลาร์ อันเนื่องจากความสูญเสียจากวิกฤติภาคธนาคารเมื่อเร็วๆนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 3.57% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ  2 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 4.09%

อย่างไรก็ตาม แม้ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นจาก 6 เดือนที่แล้ว แต่นักลงทุนยังระมัดระวังเพราะยังวิตกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยโลก และจับตาการรายงานข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคพื้นฐาน (core PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ให้ความสำคัญ เพื่อประเมินทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด

ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 60.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคม

เฟด สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า จากแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุด แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.2% ในไตรมาส 1 ปีนี้

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เปิดเผย ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales)เดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก นำโดยกลุ่มธนาคารที่ปิดบวก 1.3% ความวิตกเกี่ยวกับเสถียรภาพของภาคธนาคารลดลงต่อเนื่อง

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 2.7% และกลุ่มบริการทางการเงินเพิ่มขึ้น 1.8%

หุ้นยูบีเอสบวก 3.7%หลังประกาศจ้างอดีตซีอีโอ ให้กลับมาบริหารธนาคารเหมือนเดิมหลังการเทคโอเวอร์ธนาคารเครดิต สวิส

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 450.21 จุด เพิ่มขึ้น 5.76 จุด หรือ +1.30%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,564.27 จุด เพิ่มขึ้น 80.02 จุด หรือ +1.07%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,186.99 จุด เพิ่มขึ้น 98.65 จุด หรือ +1.39%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,328.78 จุด เพิ่มขึ้น 186.76 จุด หรือ 1.23%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 72.81ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 53 เซนต์ หรือ 0.67% ปิดที่ 78.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล