KBANK ไตรมาส 3 กำไร 9.7 พันล. เพิ่ม 2.8% – 9 เดือนโต 10%

แบงก์กสิกรไทย ไตรมาส 3/61 กำไรสุทธิ 9.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.85% จากงวดปีก่อน หนุน 9 เดือนกำไรสุทธิ 2.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 9.76% เหตุรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น สำรองหนี้สูญลดลง

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2561 มีกำไรสุทธิ 9,743.69 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.07 บาท เพิ่มขึ้น 2.85% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 9,473.36 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.96 บาท ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2561 กำไรสุทธิ 31,426.15 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 13.13 บาท เพิ่มขึ้น 9.76% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 28,630.96 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 11.96 บาท

งวด 9 เดือน ปี 2561 ธนาคารมีการตั้งสำรองเผื่อค่าหนี้สงสัยจะสูญลดลง นอกจากนี้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2,926 ล้านบาท หรือ 4.17% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยรับของเงินให้สินเชื่อ เงินลงทุนและรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ 3.43% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 3,187 ลานบาท หรือ 19.63% ซึ่ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้สุทธิจากการรับประกนภัยและรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดทุนจากรายการเพียงคร้ังเดียวในการจาหน่ายหลักทรัพย์และรายได้เงินปันผล

สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 3,520 ลานบาท หรือ 7.34% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลงและการยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล ในขณะที่รายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดเงินเพิ่มขึ้นจากธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายจากการดาเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 1,456 ลานบาท หรือ 3.07% ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายทางการตลาด และค่าใช้จ่ายพนักงาน

สำหรับผลการดําเนินงาน 3 ปี 2561 ลดลงจากไตรมาสก่อน 1,173 ลานบาท หรือ 10.75% โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 637 ล้านบาท ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 3,187 ลานบาท หรือ 19.63% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้สุทธิจากการรับประกนภัยและรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดทุนจากรายการเพียงคร้ังเดียวในการจำหน่ายหลักทรัพย์และรายได้เงินปันผล นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ลดลง 471 ล้านบาทหรือ 2.83%

นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง 471 ลานบาท หรือ 2.83% ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 42.58%

ณ วันที่ 30 ก.ย.2561 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) อยู่ที่ 3.30% เท่ากับสิ้นปี 2560 อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 155.95% จาก148.45% ณ สิ้นปี 2560 สำหรับเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจการเงินตามหลกเกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 18.96% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.50%