HoonSmart.com>> บอร์ด “ออลล์ อินสไปร์ฯ” อนุมัติขายสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินโครงการ ออกัส สาทร-ราชพฤกษ์ ได้เงิน 12 ล้านบาท หลังขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินซื้อที่พร้อมรับโอนกรรมสิทธิ์ตามกำหนด เสียหายจากการก่อสร้างพัฒนาที่ดินไปแล้วบางส่วนใช้เงินเกือบ 30 ล้านบาท
บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2566 มีมติให้จำหน่ายสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินโครงการ ออกัส สาทร-ราชพฤกษ์ (AUGUST) ให้แก่ SWEET FIG LIVING Co.,Ltd. (ผู้ซื้อ) ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท ในราคา 12 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ไม่สามารถรับโอนกรรมสิทธิที่ดินได้และเป็นการเสริมสภาพคล่องบางส่วนให้แก่บริษัท
สาเหตุที่จำหน่ายสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินดังกล่าว เนื่องจากบริษัทได้รับโอนสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ฉบับลงวันที่ 2 ธ.ค.2563 มาเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2564 โดยมีกำหนดโอนกรรมสิทธิในวันที่ 2 ธ.ค.2564 ทั้งนี้ ในระหว่างระยะเวลาตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินก่อนถึงกำหนดวันโอนกรรมสิทธิที่ดิน บริษัทได้มีการลงทุนพัฒนาที่ดินไปบางส่วน เช่น การลงเสาเข็มตามแบบแปลน รวมถึงการสร้างรั้วล้อมรอบที่ดินดังกล่าว เป็นเงิน 29,757,178.43 บาท
ต่อมาด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด เป็นเหตุให้บริษัทไม่สามารถรับโอนกรรมสิทธิที่ดินได้ตามกำหนด บริษัทจึงได้เจรจาขอเลื่อนการโอนกรรมสิทธิที่ดิน รวมทั้งสิ้น 6 ครั้ง เป็นเหตุให้เงินมัดจำที่ดินสูงขึ้นถึง 49,795,000 บาท นอกจากนั้นบริษัทได้รับจดหมายการแจ้งเตือนจากเจ้าของที่ดินให้ดำเนินการรับโอนกรรมสิทธิในที่ดินหลายครั้ง มิฉะนั้น จะริบเงินที่บริษัทได้ชำระมาแล้วทั้งหมด รวมถึงให้บริษัทดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่บริษัทได้กระทำลงบนที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขาย และให้ส่งคืนที่ดินในสภาพเรียบร้อยแก่เจ้าของที่ดิน ซึ่งในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินนั้น บริษัทได้ประเมิณค่าใช้จ่ายโดยประมาณมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 8,000,000 บาท
ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการเจรจาต่อรองในการเลื่อนการโอนกรรมสิทธิที่ดินกับเจ้าของที่ดินมาโดยตลอด ซึ่งเจ้าของที่ดินได้ตกลงให้บริษัทเลื่อนการโอนกรรมสิทธิที่ดินเป็นครั้งสุดท้ายภายในวันที่ 25 พ.ค.2566
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุการขาดสภาพคล่องของกระแสเงินสดของบริษัทในปัจจุบัน เป็นเหตุให้บริษัทคาดว่าจะไม่สามารถที่จะรับโอนกรรมสิทธิที่ดินได้ตามระยะเวลาของสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินได้ตามกำหนด รวมถึงการขออนุมัติสินเชื่อโครงการจากธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบันก็มีความเป็นไปได้ยาก ซึ่งการที่บริษัทไม่สามารถรับโอนกรรมสิทธิที่ดินได้นั้น เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหายจากการถูกริบเงินมัดจำและต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ได้ลงทุนไป เพื่อคืนที่ดินตามสภาพเดิมให้แก่เจ้าของที่ รวมถึงความเสียหายที่ได้ลงทุนพัฒนาที่ดินไปแล้วบางส่วน รวมเป็นมูลค่าความเสียหายค่อนข้างสูง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้พยายามจำหน่ายสิทธิตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินให้แก่นักลงทุน หรือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง แต่เนื่องจากติดปัญหาการลงเสาเข็มไว้ทั้งแปลง เป็นเหตุให้ไม่สามารถแก้ไขแบบการก่อสร้างโครงการ