NER ลุยสร้างโรงงานใหม่กำลังผลิต 1.7 แสนตัน รองรับปริมาณใช้ยางเพิ่มขึ้น

HoonSmart.com>> “นอร์ทอีส รับเบอร์” รุกก่อสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน คาดแล้วเสร็จไตรมาส 1 ปี 67 พร้อมตั้งเป้าปี 66 ปริมาณขายรวม 5 แสนตัน รายได้ราว 3 หมื่นล้านบาท หลังปริมาณออเดอร์จากลูกค้าเพิ่มขึ้น ยอดส่งออกสินค้ามีความคล่องตัวมากขึ้น

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนายศักดิ์ชัย จงสถาพงษ์พันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชี-การเงิน และนางสาวเกศนรี จองโชติศิริกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ ร่วมนำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน Opportunity Day ประจำปี 2565 เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนการขยายกำลังการผลิตสินค้าประเภทยางแท่งและยางแท่งผสม โดยการลงทุนก่อสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 172,800 ตัน ใช้งบลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมการและการปรับปรุงที่ดิน ซึ่งคาดว่าโรงงานจะสร้างเสร็จในไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่งภายหลังจากการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว บริษัทจะมีกำลังการผลิตสินค้ารวมทั้งสิ้น 688,400 ตันต่อปี

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายรวมที่ 5 แสนตัน คิดเป็นรายได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยสัดส่วนยอดขายแบ่งเป็นในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% จากปี 2565 สัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 66 : 34 เนื่องจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดประเทศโดยเฉพาะจีน และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายตลาดกลุ่มลูกค้าประเทศต่างๆเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีการเซ็นสัญญากลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นทั้งลูกค้าในประเทศ และลูกค้าต่างประเทศอาทิ จีน สิงคโปร์ อินเดีย เพิ่มขึ้นอีกหลายราย

ด้านธุรกิจสินค้าสำเร็จรูป (สินค้าปลายน้ำ) บริษัทมีแผนการทำการตลาด โดยมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาสินค้าสำเร็จรูป (สินค้าปลายน้ำ) ต่างๆ ที่ใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบหลักให้เป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้สัดส่วนยอดขายสินค้าปลายน้ำจะเติบโตขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มสินค้าสำเร็จรูปที่ใช้ส่วนผสมของยางพาราเป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทในระยะยาว