นักลงทุนเก็งกำไร 2 หุ้นน้องใหม่สนั่น วอลุ่มมากถึง 8,744 ล้านบาท BGC เจอแรงทุบ 4 โมงเย็น ไหลจู๊ด ปิด 11.80 บาท แจกกำไรวันแรก 15% ห่างเป้าหมายนักวิเคราะห์ 13.20-13.50 บาท OSP หวาดเสียวต่ำจอง 25 บาท ด้าน SONIC เข้าซื้อขายตลาดเอ็มเอไอ ต้องลุ้นหนักหน่อย
บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส (BGC) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก (18 ต.ค.) ฟลอร์มสวย ราคาขึ้นไปสูงสุด 12.90 บาท ก่อนจะถูกทุบหนักในช่วง 4 โมงเย็น ทรุดลงไปต่ำสุด 11.20 บาท ก่อนปิดที่ 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาทหรือ 15.69% ส่วน บริษัทโอสถสภา (OSP)วันที่ 2 แรงขายออกมาไม่ยั้ง ราคาปิดที่ 25.50 บาท ร่วง 6.42% ลดลง 1.75 บาท
วันนี้ (19 ต.ค.) บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท ‘SONIC’ ดำเนินธุรกิจให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) หลังขายไอพีโอจำนวน 128 ล้านหุ้น หุ้นละ 1.95 บาท ยังต้องลุ้นเรื่องราคาวันแรก
หุ้น BGC ได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยนักวิเคราะห์อย่างน้อย 2 รายแนะนำให้ซื้อ บล.กสิกรไทย ให้ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท สำหรับสิ้นปี 2562 มองเป็นหุ้นปันผลที่น่าสนใจ คาดการณ์อัตราผลตอบแทนสูงถึง 6% สำหรับปี 2562-2563 และความสามารถในการจ่ายเงินปันผลเป็นรายไตรมาส
ปัจจุบัน BGC มีส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แก้วมากที่สุดในประเทศไทย ขณะที่อุตสาหกรรมมีอุปสรรคในการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ยาก เพราะส่วนแบ่งตลาดรวม 89% มาจากผู้เล่นเพียง 3 อันดับแรกของตลาดที่ครอบครองความต้องการส่วนใหญ่จากผู้เล่นเครื่องดื่มขนาดใหญ่อยู่แล้ว
นอกจากนั้นบริษัทยังมีรายได้สัดส่วนประมาณ 60% มาจากกลุ่มบุญรอด ซึ่งมีการทำสัญญาซื้อขายที่มีกำหนดปริมาณขั้นตำเป็นระยะเวลา 5 ปี ส่วนอีก 40% มาจากบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอาหาร
“เราคาดว่ากำไรปกติในปี 2561-2562 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”บล.กสิกรไทย ระบุ
นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส เปิดเผยว่า บริษัทมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการบรรจุภัณฑ์แก้วและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศและอาเซียน เพื่อขยายกำลังการผลิต
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการจัดเตรียมแผนธุรกิจปี 2562 เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทภายในกลางเดือน พ.ย.นี้ เบื้องต้นคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิในปีหน้าจะดีกว่าปี 2561 เนื่องจากจะรับรู้กำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มเข้ามาได้เต็มปี แลขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่ม จากปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่ม CLMV และโซนยุโรป สามารถขายในราคาสูงกว่าในประเทศ ทำให้มาร์จิ้นปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน และสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปีนี้อยู่ที่ 7-8% และภายใน 5 ปี จะเพิ่มเป็น 20%
“บริษัทตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 6% และอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 16% เน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ”นายศิลปรัตน์ กล่าว
บล.ทิสโก้ ให้ราคาเป้าหมาย 13.20 บาท ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ เติบโตก้าวกระโดดและเพิ่มขึ้น 26.6% ในปีหน้า
“BGC จะมีกำไรสุทธิปี 2561-2563 อยู่ที่ 555 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 197.9% , 702 ล้านบาท เติบโต 26.6% และ 753 ล้านบาทพุ่งขึ้น 7.2% “บล.ทิสโก้ ระบุ
นายสันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SONIC เปิดเผยว่า บริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญโลจิสติกส์มานานกว่า 22 ปี ให้บริการที่ครบวงจร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านการขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศ มีเครือข่ายพันธมิตร ที่แข็งแกร่งครอบคลุม 134 ประเทศทั่วโลก การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง เพิ่มจำนวนรถขนส่ง พัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า ซื้อที่ดินและอาคารเพื่อดำเนินงานสาขาแหลมฉบัง พัฒนาระบบสารสนเทศ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผล ไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ