ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ก.ย.ลด กังวลน้ำมันพุ่ง-บาทแข็ง

ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นฯ เดือนก.ย.ลดลง ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม กังวลราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น เงินบาทแข็งค่า ภาคส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ ประจำเดือนก.ย.2561 จำนวน 1,204 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แยกเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดย่อม อุตสาหกรรมขนาดกลาง และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ร้อยละ 31.6, 39.0, 29.4 ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ตามลำดับ แบ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ร้อยละ 35.5,17.8,14.7,18.8 และ 13.2 ตามลำดับ และแบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นตลาดในประเทศ และกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นตลาดต่างประเทศ ร้อยละ 82.1 และ 17.9 ตามลำดับ

ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ย.2561 อยู่ที่ระดับ 91.5 ปรับตัวลดลงจากระดับ 92.5 ในเดือนส.ค. ทั้งนี้ค่าดัชนีฯ ที่ลดลง เกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ

จากการสำรวจพบว่า ในเดือนก.ย. ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง กระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่ง ขณะที่ผู้ประกอบการส่งออกเห็นว่า เงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง รวมทั้งปัญหาความแออัดของท่าเรือที่ทำให้เกิดความล่าช้าในการขนส่งสินค้า ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเห็นว่าข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน มีแนวโน้มจะยืดเยื้อ

อย่างไรก็ตาม พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ปรับตัวเพิ่มขึ้นและ ดัชนีฯ มีค่าเกินระดับ 100 สะท้อนมุมมองต่อการประกอบการในระดับที่ดี ซึ่งพบว่า ผู้ประกอบการสามารถวางแผนควบคุมการผลิตและบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นด้านการส่งออก ยังมีทิศทางที่ดีสะท้อนจากดัชนียอดคำสั่งซื้อและยอดขายในต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้น อยู่ที่ระดับ 106.1 เพิ่มขึ้นจากระดับ 105.6 ในเดือนส.ค. จากความชัดเจนของภาครัฐเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ประกอบกับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 อุปสงค์ของสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

ดัชนีความเชื่อมั่นฯ จำแนกตามขนาดของกิจการในเดือนก.ย.2561 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของอุตสาหกรรมขนาดย่อม และอุตสาหกรรมขนาดกลาง ปรับตัวลดลงจากเดือนส.ค. ขณะที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค.

อุตสาหกรรมขนาดย่อม ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนก.ย.2561 อยู่ที่ระดับ 74.9 ปรับตัวลดลงจากระดับ 75.8 ในเดือนส.ค. โดยองค์ประกอบดัชนีฯ ที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ

สำหรับอุตสาหกรรมขนาดย่อมที่ค่าดัชนีฯ ปรับตัวลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมเซรามิก, อุตสาหกรรมแกรนิตและหินอ่อน, อุตสาหกรรมไม้อัดไม้บาง และวัสดุแผ่น เป็นต้น

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 98.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 98.1 ในเดือนส.ค. องค์ประกอบดัชนีฯ คาดการณ์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลาง ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนก.ย.2561 อยู่ที่ระดับ 90.5 ปรับตัวลดลงจากระดับ 91.9 ในเดือนส.ค. โดยองค์ประกอบดัชนีฯ ที่ปรับตัวลดลง ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ

สำหรับอุตสาหกรรมขนาดกลางที่ค่าดัชนีฯ ปรับตัวลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร,อุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ, อุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนัง เป็นต้น

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 108.7 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ108.4 ในเดือนส.ค. โดยองค์ประกอบดัชนีฯ คาดการณ์เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนก.ย.2561 อยู่ที่ระดับ 110.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 110.4 ในเดือนส.ค. โดยองค์ประกอบดัชนีฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอด-คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ต้นทุนประกอบการ ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ

สำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์, อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและโลหะการ, อุตสาหกรรมเคมี เป็นต้น

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 111.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 109.0 ในเดือนส.ค. โดยองค์ประกอบดัชนีฯ คาดการณ์เพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ต้นทุนประกอบการ ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ