HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดบวก 8.57 จุด เฟดส่งสัญญาณจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนพ.ค.ก่อนทรงตัว และปรับลดดอกเบี้ยในปี 67-68 อีกทั้งการเลือกตั้งในประเทศช่วยหนุน นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,642.26 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 2,224.01 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้บรรยากาศตลาดยังดี แนวรับ 1,570-1,580 แนวต้าน 1,610-1,620 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 23 มี.ค.2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,593.65 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด หรือ +0.54% มูลค่าซื้อขาย 49,431.84 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,598.59 จุด ต่ำสุด 1,577.70 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,008.58 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 426.83 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 2,224.01 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,642.26 ล้านบาท
นายสมบัติ เอกวรรณพัฒนา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า บรรยากาศตลาดหุ้นในช่วงเช้าติดลบจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงหลังจากตีความถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปในทางยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้ไปกดดันหุ้นในกลุ่มธนาคาร แต่ในช่วงบ่ายบางกลุ่มก็มีการตีความถ้อยแถลงของประธานเฟดที่เห็นภาพชัดขึ้นในการส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.อีกครั้ง หลังจากนั้นก็จะทรงตัว และเฟดคงจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในปี 67-68 ซึ่งเป็นมุมมองอีกแง่ ทำให้ตลาดคลายใจลงและบ่ายก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้ตลาดในเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกกันด้วย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากการเลือกตั้ง เป็นแรงหนุนทำให้เปอร์เซนต์การปรับตัวขึ้นทำได้ดีกว่าตลาดอื่นในเอเชีย อย่างไรก็ดี ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายไประดับหนึ่งแล้วหลังเสร็จสิ้นการประชุมเฟด ต่อไปก็ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะตัวเลขที่จะบ่งชี้ถึงความเป็นไปของเงินเฟ้อสหรัฐ
ด้านตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ในแดนลบเล็กน้อยราว 0.1-0.2% ไม่สดใสเหมือนตลาดเอเชีย เนื่องจากยังเป็นห่วงเรื่องเงินเฟ้อในยุโรป หลังจากที่เงินเฟ้ออังกฤษยังอยู่ในระดับสูง และวันนี้มีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค) บรรยากาศของตลาดยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยให้แนวรับ 1,570-1,580 จุด แนวต้าน 1,610-1,620 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
CPALL ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.79% มูลค่าซื้อขาย 1,637.20 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.77% มูลค่าซื้อขาย 1,514.89 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 213.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.47% มูลค่าซื้อขาย 1,476.45 ล้านบาท
JASIF ปิดที่ 7.00 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ -9.09% มูลค่าซื้อขาย 1,421.15 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 142.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,231.81 ล้านบาท