HoonSmart.com >> TEGH จ่อ COD “โปรเจคก๊าซชีวภาพ” เฟส 1 ไตรมาส 2/66 ดันบริหาร-จัดการ กากอินทรีย์แตะ 7.2 แสนตัน/ปี – ขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเป็น 34 ล้านลูกบาศเมตร/ปี พร้อมขยายกำลังผลิตยางแท่ง ดันรายได้ปีนี้โต 10%
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) เปิดเผยว่า โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ ระยะที่ 1 คาดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 2/2566 โดยรองรับปริมาณกากอินทรีย์ได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 300 ตัน และความสามารถบริหารจัดการกากอินทรีย์ทั้งหมด 720,000 ตันต่อปี และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้น อีกวันละ 30,000 ลูกบาศก์เมตร ทำให้มีกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพรวมเป็น 34 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ จาก 43 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 64 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ภายในปี 2566 นี้ รองรับความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น และเป็นพลังงานสะอาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากทั้งภายในและนอกกลุ่มบริษัทฯ อีกด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาตินั้น บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตยางแท่งเป็น 430,000 ตัน/ปี ภายในปี 2567 หรือเพิ่มขึ้น 34% จากกำลังการผลิตปัจจุบัน ตั้งเป้าเจาะกลุ่มลูกค้ายางแท่งในตลาดอินเดียและจีนมากขึ้น โดยเน้นการผลิตสินค้าเกรดพรีเมียม ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าชั้นนำระดับโลกได้ และให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้ามาตรฐานความยั่งยืน ที่มีปริมาณขายเติบโตขึ้นและมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
กรรมการผู้จัดการ กล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ คาดฟื้นตัวกลับมาได้ หลังจากซ่อมบำรุงเครื่องจักรไปเมื่อปีที่แล้ว และการติดตั้ง Boiler ลูกใหม่แล้วเสร็จไตรมาส 1/2566 ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น และเดินหน้าติดตั้งหม้อนึ่งปาล์ม (Sterilizer) เพิ่มเติม เพื่อขยายกำลังการผลิตเป็น 84 ตันปาล์มทะลายต่อชั่วโมง ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบรวมเพิ่มขึ้น เป็น 735,000 ตันปาล์มทะลายต่อปี ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งเสร็จภายในไตรมาส 4/2566 นี้
“แผนธุรกิจปีนี้ ตั้งเป้ารายได้เติบโตมากกว่า 10% จากการขยายกำลังทั้ง 3 สายธุรกิจหลัก ขณะเดียวกัน เรามุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโตยั่งยืน ไปพร้อม ๆ กับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทฯ ทำแผนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ์เป็นศูนย์ต่อไป” นางสาวสินีนุช กล่าว
อนึ่ง ล่าสุดผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 15,403.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.92% จากช่วงปีก่อนที่มีรายได้ 11,087.76 ล้านบาท กำไรสุทธิ 684.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.58% จากช่วงปีก่อนที่ทำได้ 562.64 ล้านบาท
โดยที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ มีมติจ่ายเงินปันผล 0.26 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 มีนาคมนี้ และจ่ายเงินปันผล 23 พฤษภาคม 2566