หุ้นเปิดร่วงกว่า 11 จุดตามสหรัฐฯ หลังปธ.เฟดส่งสัญญาณดอกเบี้ยเชิงรุก

HoonSmart.com>> หุ้นไทยเปิดตลาดร่วงกว่า 11 จุด แรงขายหุ้นบิ๊กแคป ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งแรงหลังประธานเฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก “บล.ฟินันเซีย ไซรัส” แนะเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว สำหรับระยะกลาง-ยาวทยอยสะสมหุ้นช่วงตลาดปรับฐานแถว 1,600+- จุดหรือต่ำกว่า วางกรอบดัชนีวันนี้ 1,605-1,625 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ 8 มี.ค.2566 เปิดปรับตัวลดลงแรง ณ เวลา 9.57 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,606.68 จุด ลดลง 11.67 จุด หรือ -0.72% มูลค่าการซื้อขาย 2,493.44 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส วางกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,605-1,625 จุด โดยถูกกดดันหลังการแถลงของประธาน FED ต่อสภาคองเกรสระบุว่าเงินเฟ้ออัตราดอกเบี้ยของ FED จะสูงกว่าที่เคยประเมิน โดยตลาดมองดอกเบี้ยจะไป Peak ที่ 5.50-5.75% ในเดือน มิ.ย. 23 หรือ 3Q23 จาก Dot Plot เดือน ธ.ค. ที่คาดที่ 5-5.25% นอกจากนี้จากถ้อยแถลงทำให้ตลาดปรับเพิ่มคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในการประชุมเดือน มี.ค. 23 เพิ่มเป็น 0.5% ด้วยความน่าจะเป็น 70% ส่งผลให้ Dollar Index พุ่งแรงกดดันให้สินทรัพย์เสี่ยงและราคา Commodity ปรับลงแรง

อย่างไรก็ตามปัจจัยในประเทศยังมีแรงประคองจากเงินเฟ้อไทยเดือน ก.พ. ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นบวกต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะกำลังซื้อในระยะถัดไป รวมถึงทำให้แรงกดดันต่อธปท.ในการขึ้นดอกเบี้ยมีน้อยลง ยังคงมุมมองว่า SET Index มีโอกาสจะ Bottom ในช่วง 2Q23 เป็นจังหวะสะสมหุ้นระยะกลาง-ยาว จากแรงกดดันนโยบายการเงินทั่วโลกที่จะเริ่มทรงตัวใน 2H23 ขณะที่เศรษฐกิจไทยจะทยอยเร่งตัวขึ้น ส่วนระยะสั้นมี Catalyst จากการหาเสียงเลือกตั้งที่จะมีเม็ดเงินสะพัดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภค

อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยที่จะทรงตัวในระดับสูงยาวนาน หุ้นที่คาดว่าจะยังปรับตัวได้แข็งแรงคือคือ Value Play ที่เทรด PER ไม่สูง โดยยังชอบ Domestic/Consumption Play มากกว่า Global Play และส่งออก

กลยุทธ์เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ระยะกลาง-ยาวทยอยสะสมหุ้นช่วงตลาดปรับฐานบริเวณ 1,600+- จุดหรือต่ำกว่า

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

KBANK อยู่ที่ 139.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.06% มูลค่าการซื้อขาย 170.26 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 201.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.47% มูลค่าการซื้อขาย 144.58 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 69.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.72% มูลค่าการซื้อขาย 141.24 ล้านบาท
PTTEP อยู่ที่ 151.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -1.62% มูลค่าการซื้อขาย 132.81 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 157.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.95% มูลค่าการซื้อขาย 1714.48 ล้านบาท