HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,600 – 1,610 จุด หลังประธานเฟดส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่า 35.07 บาท แนะทยอยซื้อแถวแนวรับหุ้นกลุ่มปลอดภัย ADVANC, INTUCH, BH หุ้นได้ผลบวกเลือกตั้ง CPALL, STEC, PLANB, TKS พร้อมคัดหุ้นเล่นวันนี้ SCGP, STEC
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,600 – 1,610 จุด แนวต้าน 1,620 จากปัจจัยเสี่ยงเฟดยังเร่งขึ้นดอกเบี้ย กอปรค่าเงินบาทเช้าอ่อนค่าอยู่ที่ 35.07 บาท/ดอลลาร์ แนะนำทยอยซื้อบริเวณแนวรับ เช่น ADVANC, INTUCH, BH หุ้นกลุ่มปลอดภัย CPALL, STEC, PLANB, TKS รับเลือกตั้ง
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง -1% กว่า หลังเจอโรม พาวเวลแถลงนโยบายการเงินครึ่งปีต่อวุฒิสภา ชึ้เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งกว่าคาด โดยเฟดอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย Terminal Rate (เดิมคาดที่ 5.1%) และอาจต้องเพิ่มความเร็วในการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงคงดอกเบี้ยสูงสักระยะ เพื่อให้เงินเฟ้อสหรัฐกลับสู่เป้าหมาย 2% ( Core PCE ก.พ. อยู่ที่ 4.7%) ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้โอกาส 69.8% จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% อยู่ที่ 5.0 – 5.25% ในการประชุม 22 มี.ค. และ มิ.ย. คาดจะปรับขึ้นอยู่ที่ 5.50 – 5.75% ค่ำวันนี้ติดตามการแถลงนโยบายการเงินต่อสภาผู้แทน ฯ สหรัฐ
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ SCGP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 59.00 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 1Q66 ฟื้นตัว QoQ แบบค่อยเป็นค่อยไป หนุนจากรายได้และอัตรากำไรขึ้นต้นหลังจีนยกเลิกมาตรการ Zero-Covid และมีการเปิดประเทศ ส่งผลบวกต่อความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาค รวมถึงต้นทุนพลังงานและกระดาษที่มีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 66 ที่ 1.6 แสนล้านบาท +10%YoY มาจากการเติบโคในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม รวมถึงตั้งเป้าขยายกิจการต่อเนื่องด้วยงบลงทุน 1.8 หมื่นล้านบาท ทั้ง Organic growth และการ M&P (Merger & Partnership) โดตลาดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 อยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท +36%YoY
หุ้น STEC (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 15.60 บาท) ประเมินธุรกิจปี2566 สดใสมากขึ้นหลังปัจจัยกดดันเริ่มผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแรงงานขาดแคลน และราคาเหล็กที่ปรับตัวลงมากกว่าราคาเฉลี่ยในปีก่อน พื้นฐานธุรกิจยังแข็งแกร่ง จาก Backlog ที่มีกว่า 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งหลายโครงการจะเข้าสู่ช่วงของการรับรู้รายได้มากขึ้น อย่างเช่นรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ นอกจากนี้ในปีนี้ คาดว่าจะมีการประมูลงานจำนวนมากทั้งงานภาครัฐฯ และงานเอกชน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน เราคาดว่าในปี66 และ67 กำไรสุทธิของ STEC จะฟื้นตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ 910 ลบ. (+6.08%YoY) และ 968 ลบ.(+6.35%YoY) ตามลำดับ