HoonSmart.com>>บล.บัวหลวงประกาศรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจหลักทรัพย์ สู้ไหวแข่งขันสูง ค่าคอมมิชชั่น 0% ผ่าน 3 กลยุทธ์ มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าทุกธุรกิจ ยันปี 66 เติบโตฉลุย ตั้งเป้าเปิดบัญชีใหม่ 3-4 หมื่นราย IPO 3-4 บริษัท คาดมูลค่าซื้อขายหุ้นเฉลี่ยของตลาดลดลง จาก 3 เหตุผล กลัวเศรษฐกิจถดถอย -ดอกเบี้ยสูง-นักธุรกิจหยุดเทรด กลับไปทำมาหากิน ลุ้นหุ้นไทยครึ่งปีหลังให้ผลตอบแทนดี จากจีนบุกเที่ยวไทย-แห่ลงทุนเพิ่ม หนุนกำไรบจ.โต หลังจากผิดหวัง Q4/65 หั่นเป้าดัชนีปีนี้ลงจาก 1,830 เหลือ 1,720 จุด
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ยังคงเน้นการรักษาความเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจหลักทรัพย์ของประเทศไทย ที่มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าในทุกสายธุรกิจ แม้ว่าการแข่งขันของธุรกิจจะยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องก็ตาม และมีบริษัทหลักทรัพย์รายใหม่คิดค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย (ค่าคอมมิชชั่น) 0% เชื่อว่ากลยุทธ์และบริการครบวงจรของบริษัท สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดี พร้อมเพิ่มบริการใหม่ๆ นักวางแผนทางการเงิน(wealth advisor) ให้ AI มาช่วยบริหารรวมถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติม
สาวนสาขาที่มีอยู่ทั้งหมด 27 แห่ง และมีผู้แนะนำการลทุนกว่า 300 คน ก็ยังจำเป็นต้องมี เพื่อให้ลูกค้ามาพบ ขอคำแนะนำการลงทุนและบริการ รวมถึงมาเปิดบัญชีใหม่
ด้านผลงานในปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 3,934 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสูงถึง 1,138 ล้านบาท และมีความแข็งแกร่งของเงินกองทุนกว่า 9,300 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาดด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (มาร์เก็ตแชร์) เกือบ 5% เช่นเดิม แต่มีส่วนแบ่งรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ในสัดส่วนสูงถึงราว 10 % หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวในรอบสิบปี โดยมีอัตราค่าคอมมิชชั่น 0.14% สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0.08% ปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าบุคคลประมาณ 640,000 ราย สูงอันดับต้นๆของอุตสาหกรรม จากภาพรวมมีผู้เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 2.4 ล้านราย ณ สิ้นปี 2565
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า กลยุทธ์ในปีนี้จะมุ่งเน้น 3 เรื่องหลัก คือ 1. การสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ในฐานะบริษัทในเครือของธนาคารกรุงเทพมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งและได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสามารถสบายใจได้ว่า
บริษัทมีความมั่นคงและยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ และมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในระบบงาน เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้บริการให้กับลูกค้า โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Wealth Connex ที่ลูกค้าสามารถใช้บริการติดต่อกับบริษัทได้อย่างสะดวกและมั่นใจในความปลอดภัย รวมถึงได้รับข้อมูลด้านการลงทุนที่เที่ยงตรงจากทีมผู้เชี่ยวชาญของบริษัท
2. การสร้างองค์ความรู้ด้านการลงทุนที่ถูกต้อง โดยในปีนี้ยังคงเน้นให้ความรู้กันอย่างเนื่อง ผ่านการจัดกิจกรรม ในเชิงลึกและการให้ความรู้กับลูกค้าทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Wealth Connex จะกลับมาจัด BLStalk กิจกรรมให้ความรู้ด้านการลงทุนกับผู้ลงทุนมือใหม่จากทีมกูรูอารมณ์ดี และได้ใช้ช่องทาง
สื่อโซเชียลมีเดียของบริษัท เพื่อให้ข้อมูลและความรู้ด้านการลงทุนอันเป็นประโยชน์ในวงกว้าง ผ่านช่อง YouTube Bualuang Securities ที่มีจำนวนผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนรายแล้ว และ 3. การพัฒนานวัตกรรมและบริการด้านการลงทุนใหม่ ๆ เมื่อต้นปีนี้ได้เปิดระบบซื้อขายหุ้นต่างประเทศตัวใหม่ในชื่อ “Global Trade Master” ที่มาพร้อมกับเครื่องมือวิเคราะห์หุ้นสุดล้ำที่จะทำให้
การลงทุนต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย ปัจจุบันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุน รวมถึงยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงระยะสั้น หรือ FCN เพื่อให้มีบริการที่ตอบโจทย์การบริหารความมั่งคั่งของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนด้วย รวมถึง DR เวียดนาม 2 ชุด ก็ได้รับผลตอบแทนรับที่ดี รวม 12,000 ล้านบาท
“ เรามุ่งมั่นในการพัฒนาบริการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้มีเป้าหมายเพิ่มยอดเปิดบัญชีใหม่ประมาณ 30,000 – 40,000 ราย” นายบรรณรงค์ กล่าว
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง คาดว่าในปี 2566 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดจะลดลงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอย ดอกเบี้ยสูงอีกนาน และนักธุรกิจที่เคยเทรดหุ้น หันกลับไปดำเนินธุรกิจเมื่อเศรษฐกิจเปิด ซึ่งบริษัทต้องหาบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักธุรกิจเหล่านั้น
“ตลาดหุ้นปีนี้ยังเจอเรื่องท้าทายอยู่ เฟดคงไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในเดือนมี.ค.นี้อย่างที่ตลาดคาด น่าจะสูงสุดประมาณกลางปี 66 ซึ่งมีการประชุมอีก 3 ครั้งในเดือนมี.ค. พ.ค. และมิ.ย. เชื่อว่าว่าจะจบในปีนี้เพราะเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอตัวลงเรื่อยๆ ส่วนเรื่องเงินเฟ้อและราคาน้ำมันดิบไม่น่าห่วง คาดเฉลี่ย 70-100 เหรียญ/บาร์เรล ส่วนไทยจะมีการเลือกตั้ง ได้รัฐบาลพรรคผสม จะต้องติดตามดูนโยบาย รัฐบาลใหม่จะต้องทำให้เศรษฐกิจขยายตัว สร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุน แต่ยังมีลุ้นที่หุ้นจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง หากนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามาก รวมถึงการย้ายฐานการผลิตจากจีนเข้ามาไทยสูง อย่างไรก็ตามกำไรบจ.งวดไตรมาสที่ 4/65 ต่ำกว่าคาด มีโอกาสปรับลดประมาณการกำไร และได้ลดเป้าหมายดัชนีปีนี้ลงเหลือ 1,720 จุดจากระดับ 1,830 จุด โดยให้น้ำหนักกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม AOT แต่จะต้องรอราคาอ่อนตัวลง รวมถึงกลุ่มแบงก์ และนิคมอุตสาหกรรม พิจารณาจากจำนวนการขอ BOT มาจากนักลงทุนจีนเป็นส่วนใหญ่ “นายชัยพรกล่าว
สำหรับการปราบปรามคอรัปชั่นอสังหาริมทรัพย์ที่เวียดนาม รัฐบาลมีการผ่อนคลายลง และเชื่อว่าจะต้องใช้เวลาดำเนินการ เพื่อยกระดับคุณภาพบจ.และพัฒนาตลาดหุ้นเวียดนาม หากแก้ไขแล้วเสร็จ กองทุนสามารถเข้าลงทุนได้ จะส่งผลดีต่อการลงทุนระยะยาว