HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 8.47 จุด แกว่งตัวช่วงไร้ปัจจัยใหม่ชัดเจน แม้ได้ Sentiment บวกจากตลาดสหรัฐดีดขึ้น-ราคาน้ำมันพุ่งเหนือ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล-เทคนิคเข้าเขต Oversold แต่ Fund flow ยังไหลออกต่อเนื่องจากบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง-กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยนาน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 มี.ค.2566 ณ เวลา 9.57 น. อยู่ที่ระดับ 1,68.47 จุด เพิ่มขึ้น 8.47 จุด หรือ +0.53% มูลค่าซื้อขาย 2,534.38 ล้านบาท
บล.กรุงศรี ประเมิน SET แกว่งตัว 1,600 – 1,615 จุด แม้จะได้ sentiment บวกจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้น , ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากคาดการณ์อุปทานน้ำมันตึงตัว รวมถึงภาวะ Oversold ทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม Fund flow ต่างชาติที่ยังไหลออกต่อเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ( Bond yield) สหรัฐ อายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้น และความกังวลขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานเพื่อควบคุมเงินเฟ้อจะกดดันให้ดัชนีผันผวน พร้อให้ติดตามวันที่ 7-8 มี.ค.ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงนโยบายการเงินและเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index ยังแกว่ง Sideways โดยรวมยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามตลาดตอบรับเชิงลบต่อทั้งปัจจัยภายนอกคือแนวโน้มดอกเบี้ยของเฟดที่ปรับขึ้นมากกว่าคาด รวมถึงในประทเศคือกำไรริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/65 ที่ต่ำกว่าคาดไปมากพอสมควร ทำให้ยังคาดหวังการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ระยะสั้นจากแนวรับหลัก 1,600+- จุด โดย RSI เข้าเขต Oversold
ส่วนวันนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อไทยเดือน ก.พ. และการแถลงของประธานเฟดต่อหน้าสภาคองเกรสว่าจะมีการเน้นย้ำนโยบายการเงินที่ยังจำเป็นต้องตึงตัวขึ้น รวมถึงทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด โดยยังประเมินดัชนีมีโอกาส Bottom ในช่วง มี.ค. 66-ไตรมาส 2/66 และเป็นจังหวะสะสมหุ้นระยะกลาง-ยาว จากแรงกดดันนโยบายการเงินทั่วโลกที่จะเริ่มทรงตัวในครึ่งหลังปี 66 ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดยังทยอยเร่งตัว ส่วนระยะสั้นมี Catalyst จากการหาเสียงเลือกตั้งใน 1-2 เดือนข้างหน้าที่จะมีเม็ดเงินสะพัดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภค
อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยที่จะทรงตัวในระดับสูงยาวนาน หุ้นที่คาดว่าจะยังปรับตัวได้แข็งแรงคือคือ Value Play ที่เทรด PER ไม่สูง โดยยังชอบ Domestic มากกว่า Global Play และส่งออก
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP อยู่ที่ 156.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ +1.63% มูลค่าซื้อขาย 391.59 ล้านบาท
TRUE อยู่ที่ 8.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +2.91% มูลค่าซื้อขาย 221.74 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 204.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.49% มูลค่าซื้อขาย 187.93 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 140.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.36% มูลค่าซื้อขาย 161.54 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.35% มูลค่าซื้อขาย 129.26 ล้านบาท