SET in the City เพิ่มโอกาสเกษียณสุขให้คนไทย

SET in the City ปีนี้ ให้เหนือกว่าที่เคย ตลาดหลักทรัพย์ฯร่วมกับ 100 พันธมิตร จัดแสดง 40 เทคโนโลยีและนวัตกรรมตลาดทุนแห่งอนาคต นำเสนอการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงครบวงจร โบรกเกอร์เสนอบริการเฉพาะตัวกับนักลงทุนทุกกลุ่ม บลจ.เป็นพี่เลี้ยงวางแผนการออม-ลงทุนระยะยาว เชิญชวนคนไทยทุกคนมาร่วมงาน เป้าหมายเพื่อให้เกษียณอย่างมีความสุข ระหว่าง 15-18 พ.ย. ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงในทุกอุตสาหกรรมและนำไปสู่วิวัฒนาการใหม่ ในส่วนตลาดทุนเทคโนโลยีถูกนำมาใช้ในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาเครื่องมือและบริการใหม่ๆ สำหรับผู้ลงทุน ตั้งแต่กระบวนการเปิดบัญชีออนไลน์ การวางแผนและการจัดพอร์ตลงทุน การคัดสรรหุ้น ซึ่งล้วนแต่จะทำให้การลงทุนเป็นไปอย่างสะดวก ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคลและไลฟ์สไตล์ รวมถึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ร่วมกับองค์กรพันธมิตรกว่า 100 องค์กร จัดงาน SET in the City ในปีนี้ ด้วยแนวคิด “สร้างอนาคตการลงทุน ให้เหนือกว่าที่เคย” โดยทุกองค์กรที่ร่วมออกบูธ ทั้งธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บริษัทนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ประกันภัย ร่วมกันนำเสนอบริการวางแผนและออกแบบพอร์ตการลงทุนแบบ Total Wealth Solution ครบวงจรทั้งหุ้น กองทุนรวม อนุพันธ์ และประกันภัย จากผู้เชี่ยวชาญทั้งนักวางแผนการเงิน ผู้แนะนำการลงทุน นักวิเคราะห์มืออาชีพ

นอกจากนี้มีการแนะนำสินค้าใหม่ TFEX Gold Online Futures สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าที่เสนอราคาซื้อขายตามราคาทองคำในตลาดโลก โดยไม่มีการส่งมอบทองคำจริง และตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR)เพื่อให้ผู้ลงทุนได้สัมผัสประสบการณ์ลงทุนยุคใหม่และเรียนรู้กับเครื่องมือ รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุน และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนทางการเงินเพื่ออนาคตที่มั่นคง

สำหรับไฮไลท์ภายในงานคือการนำเสนอ Trends & Tools เทคโนโลยีเพื่อการลงทุนแห่งอนาคตกว่า 40 นวัตกรรม เช่น การนำระบบสมองกล หรือ Artificial Intelligence (AI) มาออกแบบเครื่องมือคัดกรองหุ้น การให้คำปรึกษากึ่งอัตโนมัติ Robo Advisor และเปิดพื้นที่สาธิตเครื่องมือลงทุนเพื่อทดลองและเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น Virtual Reality (VR) Augmented Reality (AR) และ Investment Game พร้อมสัมมนาและ Workshop เชิงปฏิบัติการ กว่า 50 หัวข้อ เพื่อวิเคราะห์การลงทุน ค้นหาหุ้นคุณภาพ เฟ้นหาโอกาสในหลักทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจที่ยกระดับคุณชีวิตที่ดี (Market of Well-being) อาทิ “เปลี่ยนโลกการลงทุนของคุณด้วย AI” “ฟันธงลงทุน หุ้นแกร่ง แรงรับเลือกตั้ง” “เจาะลึกหุ้น Well-being มิติใหม่แห่งการลงทุน” เป็นต้น

บล.ให้บริการเฉพาะกับนักลงทุนทุกกลุ่ม

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ รองประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า SET in the City สร้างโอกาสเหนือการลงทุน และเป็นที่พึ่งของนักลงทุนทั้งใหม่และที่ลงทุนอยู่ในปัจจุบัน ในปีนี้ มีบริษัทหลักทรัพย์ 19 แห่งมาร่วมงาน และโบรกเกอร์ด้านทอง-อนุพันธ์ด้วย

ปัจจุบันตลาดทุนเปลี่ยนแปลงไปมาก นักลงทุนมีความหลากหลาย ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับการบริการให้ทัน ขณะนี้ทัศนคติต่อการลงทุน และการออมมีน้ำหนักมากขึ้น มีการตื่นตัว ต้องใส่ใจนักลงทุนทุกกลุ่ม

คนรุ่นใหม่ตื่นตัวในการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เช่น คริปโตเคอเรนซี่ จึงต้องให้ความรู้และเครื่องมือที่ดี เพื่อให้การลงทุนมีความยั่งยืน

“ต้องมีความลึกตอบรับความเสี่ยงต่อการลงทุนมากขึ้น”

ส่วนนักลงทุนวัยทำงาน มีการลงทุนอย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น การลงทุนสม่ำเสมอ สำหรับนักลงทุนกลุ่มวัยเกษียณ เพิ่งมาเรียนรู้เรื่องการลงทุน อาจจะต้องยอมรับความเสี่ยงบ้าง

ขณะเดียวกันนักลงทุนยังมีพฤติกรรมหลากหลาย มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาตอบสนองความต้องการลงทุน ดังนั้นการให้บริการต้องชัดเจน เพื่อให้เหมาะกับความเสี่ยงที่มากขึ้น นอกจากนั้นตลาดทุนยังมีสินค้าหลากหลาย เช่น DW มีบทบาทมากขึ้น และมีสีสรรต่อการลงทุน ปัจจุบันอนุพันธ์มีการซื้อขาย 4-5 แสนสัญญาต่อวัน เพื่อให้นักลงทุนบริหารความเสี่ยงและหาผลตอบแทนได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับเทคโนโลยีที่มีมากขึ้นในการลงทุน เช่น การนำ AI มาใช้ประกอบการลงทุนมากขึ้น ที่ผ่านมาผู้ประกอบการให้บริการรูปแบบเดียว ใช้กับลูกค้าทุกคน ขณะนี้ต้องออกแบบเฉพาะตัว รวมถึงเรื่องการชำระราคาก็รวดเร็วขึ้น เพิ่มธุรกรรมการลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ต้องปรับตัว ปรับสินค้าให้มีความโปร่งใส เพื่อให้นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนสบายใจ

สมาคมบลจ.ตั้งเป้าเพิ่มนักลงทุนระยะยาว

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมบริษัทจัดการกองทุน(บลจ.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมกองทุนยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยควรส่งเสริมสนับสนุนให้คนมีความรู้ทางการเงิน อ่านออกเขียนได้ในการวางแผนการออม การลงทุนที่เหมาะสมของแต่ละคน และมีจุดป้องกันความเสี่ยงด้วย เช่น การทำประกัน

ส่วนกรณีที่การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) ในปีนี้จะปีสุดท้ายที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี จะต้องหาทางรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และขอยืนยันว่า LTF เป็นการลงทุนของผู้มีรายได้ปานกลาง ซึ่งรัฐควรจะมองถึงผล
กระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหลังหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษี รวมถึงการส่งเสริมตลาดเงินและตลาดทุนอย่างไรต่อไป

นอกจากนี้ นักลงทุนทุกกลุ่มกำลังแข่งขันกับเทคโนโลยีในการส่งคำสั่งซื้อขาย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ควรพิจารณาเพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรม รวมถึงการนำไอทีเข้ามาทำงานแทนคน ทุกฝ่ายจะต้องคิดในการดูแลคนในอุตสาหกรรมตลาดทุนอย่างไร

นางวรวรรณ กล่าวว่า สมาคมบลจ.จัดทำแผนงาน ในการเพิ่มการลงทุนระยะยาวจากสัดส่วน 25% ของจีดีพีเพิ่มเป็น 45% และต้องการรวบรวมฐานข้อมูลการลงทุนในหน่วยลงทุนของประชาชนทั้งประเทศ จากปัจจุบันที่ข้อมูลแยกกันอยู่ในแต่ละบลจ. หากรวมข้อมูลของนักลงทุนแต่ละคนเป็น 1 บัญชี จะเป็นประโยชน์ต่อตัวนักลงทุนเองและอุตสาหกรรมกองทุน เพราะจะทราบว่านักลงทุนรายนั้นมีการลงทุนอะไรบ้าง และมีเงินมีความมั่งคั่งเพียงพอรองรับกับการเกษียณหรือไม่

ปัจจุบันกองทุนทั้งระบบ มีขนาด 5 ล้านล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2561 คิดเป็น 6.2 ล้านบัญชี มีสินค้าให้ลงทุนจำนวน 1,500 กองทุน