HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดพุ่ง 10.94 จุด รับแรงเก็งกำไรหลังนายกฯกล่าวถึงโอกาสในการยุบสภาในเดือนมี.ค.นี้ เพิ่มความมั่นใจเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในพ.ค.นี้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 4,247.95 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 756.62 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ลุ้นฟื้นตัว แนวรับ 1,650 แนวต้าน 1,670-1,680 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 21 ก.พ.2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,668.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.94 จุด หรือ +0.66% มูลค่าซื้อขาย 66,040.26 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,669.51 จุด ต่ำสุด 1,652.25 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 4,247.95 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 687.88 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 756.62 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2,803.44 ล้านบาท
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บ่ายนี้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบราว 0.5% ขณะที่ตลาดในยุโรปเปิดเทรดบ่ายนี้ติดลบเฉลี่ย 0.2% เช่นดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ติดลบราว 200 จุด ตลาดอยู่ในลักษณะซึมหลังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้มีประเด็นความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง หลังนายกรัฐมนตรีได้แสดงความคิดเห็นถึงโอกาสในการยุบสภาในเดือนมี.ค.นี้ ทำให้เกิดแรงเก็งกำไรเข้ามา ซึ่งก็เป็นการเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นในการเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งในเดือนพ.ค.ที่จะถึงนี้
“ตาม Process การยุบสภาในเดือนมี.ค.ก็เหมือนเป็นการเปิด Time ให้นักการเมืองมีเวลาในการย้ายพรรค และยังมีความชัดเจนขึ้นในเรื่องการเลือกตั้งในเดือนพ.ค. ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเด้งขึ้นมาทันที อย่างเช่นหุ้น STEC และหุ้น Domestic plays ต่างก็ปรับตัวขึ้นมาด้วย”
อย่างไรก็ดี คืนนี้ให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิต และภาคบริการของสหรัฐ และยุโรปที่จะทยอยประกาศออกมา และวันศุกร์ (24 ก.พ.) ติดตามตัวเลข PCE ของสหรัฐ ส่วนในประเทศให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และความคืบหน้าการเลือกตั้งต่อไป
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) ตลาดอยู่ในโซนตั้งรับ รอการฟื้นตัว เมื่อมีความคืบหน้าการเลือกตั้งที่ชัดเจนขึ้นก็ทำให้ตลาดมีลุ้นฟื้นตัวได้ โดยมีแนวรับ 1,650 จุด แนวต้าน 1,670-1,680 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 139.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.36% มูลค่าซื้อขาย 6,383.65 ล้านบาท
EA ปิดที่ 81.25 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ -2.11% มูลค่าซื้อขาย 4,322.65 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 100.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 2,889.29 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ +1.95% มูลค่าซื้อขาย 2,638.70 ล้านบาท
CHASE ปิดที่ 3.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +3.45% มูลค่าซื้อขาย 1,818.61 ล้านบาท