หุ้นปิดร่วง 12.13 จุด ปัจจัยเฉพาะตัวกดดัน ต่างชาติ 664 ลบ.

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดร่วง 12.13 จุด ปัจจัยเฉพาะตัวส่งผลให้ดูอ่อนกว่าตลาดเอเชีย จากกังวลผลดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนที่ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าคาด และปัจจัยเฉพาะตัวสำหรับหุ้นบางตัว นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,836.95 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,226.65 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับเงินเฟ้อสหรัฐ แนวรับ 1,640 จุด แนวต้าน 1,660-1,670 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 14 ก.พ.2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,652.76 จุด ลดลง 12.13 จุด หรือ -0.73% มูลค่าซื้อขาย 70,518.69 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,669.71 จุด ต่ำสุด 1,648.74 จุด

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 664.07 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 274.37 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,226.65 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1,836.95 ล้านบาท

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลงจากความกังวลผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนที่ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้หุ้นขนาดใหญ่ถูกกดดัน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น DELTA, PTTEP และยังมีปัจจัยเฉพาะตัวกดดันหุ้นบางตัวด้วย อย่างเช่นหุ้น GULF, GUNKUL

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียจะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในแถบเอเชียเหนือจะบวกกัน ขณะที่ตลาดอาเซียนจะติดลบมากกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค ส่วนตลาดในยุโรปเปิดเทรดบ่ายนี้บวกได้เล็กน้อยราว 0.2-0.3% ในช่วงรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะออกมาในคืนนี้ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลข GDP ของไทยที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ และยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไปด้วย

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) ทิศทางตลาดขึ้นอยู่กับเงินเฟ้อของสหรัฐ ถ้าออกมาแล้วย่อตัวเร็วหรือต่ำกว่าตลาดคาด ตลาดก็มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้ พร้อมให้แนวรับ 1,640 จุด แนวต้าน 1,660-1,670 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
GUNKUL ปิดที่ 4.22 บาท ลดลง 0.54 บาท หรือ -11.34% มูลค่าซื้อขาย 5,466.89 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 71.75 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -1.37% มูลค่าซื้อขาย 3,179.94 ล้านบาท
PTTGC ปิดที่ 50.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 2,878.81 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 880.00 บาท ลดลง 22.00 บาท หรือ -2.44% มูลค่าซื้อขาย 2,603.43 ล้านบาท
JMT ปิดที่ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +1.01% มูลค่าซื้อขาย 2,301.74 ล้านบาท