HoonSmart.com>> บลจ.ไทยพาณิชย์ มองตลาดหุ้นญี่ปุ่นแนวโน้มปรับตัวขึ้น หลังเปิดรับนักท่องเที่ยว หนุนเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว สบช่องออกกองทุน SCBDSHARC1YH เปิดโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากสัญญาออปชั่น NIKKEI 225 Index ระยะเวลาลงทุน 1 ปี เสิร์ฟนักลงทุนรายใหญ่ ลงทุนขั้นต่ำ 5 แสนบาท เปิดขาย 14-27 ก.พ.66
นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศฝั่งเอเชียที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าติดตาม จากการที่เป็นประเทศเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และจีน ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และเป็นประเทศติดอับดับด้านการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และเทคโนโลยีต่างๆ โดยช่วงก่อนเกิดวิกฤติ COVID-19 ญี่ปุ่นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยหลักเป็นนักท่องเที่ยวจีนที่มีสัดส่วนมากถึง 30%
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย ญี่ปุ่นได้เปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากการคลายมาตรการคุมเข้ม Zero Covid-19 ของจีน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก จึงยิ่งเป็นแรงสนับสนุนให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงมองว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอย่าง Nikkei 225 index (NKY index) จึงอาจมีการเคลื่อนไหวและมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้
ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าการลงทุนใน Nikkei 225 index จะเป็นโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่ม ที่สามารถเสริมควบคู่ไปกับการลงทุนในตราสารหนี้ได้ โดยจะเป็นการลงทุนในสัญญาออปชั่น (Option) หรือสัญญาวอร์แรนท์ (Warrant) ที่อ้างอิงกับการเคลื่อนไหวของดัชนี Nikkei 225 และจะเป็นการลงทุนในต่างประเทศครั้งแรก ที่การจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับผลการดำเนินงานของดัชนี Nikkei 225 (หรือ ผลตอบแทนจากสัญญา Option) ที่ไม่ได้รับความเสี่ยงจากการผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน
บริษัทฯ ได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Double Structured Complex Return 1YH ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ กองทุน SCBDSHARC1YH กองทุน Complex Fund อายุ 1 ปี ที่มีนโยบายการลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ (1) ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วนร้อยละ 98.60 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (NAV) สำหรับโอกาสการสร้างเงินลงทุนให้เติบโตจากผลตอบแทน/ดอกเบี้ยของตราสารหนี้ และ (2) ลงทุนในสัญญาออปชั่นที่อ้างอิงกับการเคลื่อนไหวของดัชนี Nikkei 225 อีกประมาณร้อยละ 1.40 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับโอกาสการหาผลตอบแทนส่วนเพิ่ม จากการจ่ายผลตอบแทน แบบ double shark fin ตามเคลื่อนไหวของราคาดัชนี Nikkei 225 ที่ปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงไม่เกิน 15% เมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ ณ วันเริ่มต้นสัญญา ซึ่งจะทำให้มีโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุดที่เป็นไปได้ อยู่ที่ 6.75% จากการลงทุนกับกองทุนนี้ และหากราคาสินทรัพย์ระหว่างอายุสัญญาปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากกว่า 15% เมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ ณ วันเริ่มต้นสัญญา ก็ยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินผลตอบแทนชดเชยที่ 0.25% ได้ โดยกองทุนจะเปิดขายหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียวระหว่างวันที่ 14-27 กุมภาพันธ์ 2566 เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท
นางนันท์มนัส กล่าวเพิ่มเติมว่า “สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นครั้งนี้ รวมถึงมาตรการการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประกาศในช่วงปลายปีที่แล้ว จะสะท้อนผลบวกต่อผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นหลักของประเทศญี่ปุ่น อย่าง Nikkei 225 index ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทขนาดใหญ่กว่า 200 บริษัท ถึงแม้ว่า ญี่ปุ่นจะมีปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อภาคการส่งออก ดุลการค้าที่อาจมีแนวโน้มขาดดุลต่อเนื่องตามมูลค่าการนําเข้าพลังงานสูง เงินเฟ้อญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มทรงตัวระดับสูง และแนวทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในอนาคต หลังมีการเปลี่ยนผ่านผู้ว่าฯ คนปัจจุบัน ที่กำลังจะหมดวาระ เป็นต้น แต่ด้วยบริษัทที่อยู่ในตลาดฯ ส่วนใหญ่ มีการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน ซึ่งเคยผ่านวิกฤตและสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา จึงเชื่อมั่นว่า จะพร้อมต่อการกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น เราจึงมองว่าการเข้าลงทุนนี้ จะเป็นส่วนเสริมของโอกาสการรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่นอกเหนือจากโอกาสการรับผลตอบแทนจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านมาจากการเข้าลงทุนในกองทุนนี้ได้อย่างดี อีกทั้งกองทุนมีอายุเพียง 1 ปี จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงด้านสภาพคล่องจากการลงทุน”