“คิงส์ฟอร์ด” แนะ PLANB-BDMS

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,650 – 1,660 จุด แนวต้าน 1,670 – 1,675 จุด ระหว่างรอเงินเฟ้อสหรัฐฯ และกำไรบจ. แนะซื้อเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น TOP, SPRC, IRPC โรงไฟฟ้า GPSC, GULF ไฟแนนท์ SAWAD, MTC, KTC คาดกำไร Q1/66 มีแนวโน้มฟื้นตัว พร้อมคัดหุ้นเด่นวันนี้ PLANB เม็ดเงินโฆษณาหนุนงบไตรมาส 4/65 หุ้น BDMS หวังผู้ป่วยกลุ่มใหม่อย่างจีนเข้าใช้บริการ

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,650 – 1,660 จุด แนวต้าน 1,670 – 1,675 จุด ระหว่างรอ US CPI ม.ค. และกำไร บจ. Q4/65 แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มโรงกลั่น TOP, SPRC, IRPC โรงไฟฟ้า GPSC, GULF ไฟแนนท์ SAWAD, MTC, KTC คาดกำไร Q1/66 มีแนวโน้มฟื้นตัว

ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +1.11%, S&P500 +1.14%, Nasdaq +1.48% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, สินค้าฟุ่มเฟือย โดย Microsoft +3.12% คาดการณ์ ChatGPT ช่วยแข่งขันกับ Google ได้ดี และ Coca Cola +1.6% ก่อนรายงานกำไร Q4/65 นักลงทุนรอรายงาน US CPI ม.ค. คาดจะชะลอตัวลง

ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.90% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรม, สินค้าอุปโภค และกลุ่มผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศ หลังอินเดียเตรียมเพิ่มงบประมาณป้องกันประเทศเพิ่มขึ้น 3 เท่า มูลค่า 5 พัน ล.ดอลลาร์ในปี 2567 – 68

หุ้น PLANB (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.30 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q65 มีปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินโฆษณาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อานิสงส์จาก High Season คนออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านและการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จาก Synergy ป้ายของ AQUA และดำเนินการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิด Economies of scale โดยจะมุ่งเน้นการเพิ่ม U-Rate และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ป้ายโฆษณาที่มีอยู่ ทั้งปี 65 ผู้บริหารคาดรายได้รวมมากกว่า 5.8 พันล้านบาท บน Media Capacity 8.6 พันล้านบาท โดยมี U-Rate เฉลี่ย 60% ส่วนปี 66 แนวโน้มเติมโตต่อตาม GDP และได้ปัจจัยหนุนจากการเลือกตั้ง

หุ้น BDMS* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท) ได้ประโยชน์โดยตรงจากการเปิดประเทศ จำนวนคนเดินทางเข้าประเทศที่สูงขึ้น จากรายได้ผู้ป่วยต่างในช่วง Precovid-19 ที่ราว 30% และนอกจากลูกค้ากลุ่มเดิมแล้ว ยังมีความคาดหวังต่อกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติกลุ่มใหม่ๆอย่างผู้ป่วยชาวจีน(ซึ่ง BDMS เป็นพันธมิตรกับ Ping An Health;ประกันสุขภาพรายใหญ่ของจีน)และ ผู้ป่วยชาวซาอุฯ(ซึ่ง BDMS พึ่งจะมีการเปิดบริษัทย่อยเพื่อเข้าไปทำการตลาดในบริเวณดังกล่าว)

สำหรับการดำเนินงานในช่วง 4Q65 เราประเมินกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,983 ล้านบาท (+13% YoY, -11% QoQ) หดตัว QoQ ตามฤดูกาลแต่ YoY โตได้ดีจากการกลับมาของผู้ป่วย Fly-in ทั้งนี้ ปัจจุบัน เราประมาณการกำไรสุทธิปี 65 และ 66 อยู่ที่ระดับ 12,477 ล้านบาท (+57%YoY) และ 13,083 ล้านบาท (+5%YoY) ตามลำดับ