บลจ.ดาโอเปิดขาย ‘กองทุน DAOL-INNOVA’ ลงทุนหุ้นนวัตกรรมเด่น แนวโน้มเติบโต

HoonSmart.com>> “บลจ.ดาโอ” มองเทคโนโลยียังเป็นเทรนด์หนุนธุรกิจและคุณภาพชีวิตในระยะยาว เปิดขาย IPO “กองทุนเปิด ดาโอ อินโนเวชั่น (DAOL-INNOVA)” ระหว่าง 9 -16 ก.พ.66 นโยบายลงทุนแบบยืดหยุ่นปรับการลงทุนรับทุกสถานการณ์ตลาด ชี้ราคาหุ้นเทคโนโลยีลงมามาก เป็นจังหวะสร้างผลตอบแทนฟื้นรับเศรษฐกิจปี 66 พร้อมรับโปรโมชั่นลงทุนช่วงวัน IPO ทุกๆ 1 ล้านบาท รับหน่วยลงทุน DAOL-MONEY-R มูลค่า 500 บาท

นิสารัตน์ ชมภูพงษ์

น.ส.นิสารัตน์ ชมภูพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ดาโอ จำกัด (DAOL INVESTMENT MANAGEMENT) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกปี 2566 มีทิศทางที่ดีขึ้น แม้จะเผชิญแนวโน้มชะลอตัวและมีโอกาสที่จะเกิดเศรษฐกิจในลักษณะของ Mild recession หรือ ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่ไม่รุนแรง แต่การเปิดประเทศของจีนเป็นปัจจัยหนุนต่อเศรษฐกิจโลกทั้งการลงทุนและการบริโภคในประเทศจีนที่ทำให้ GDP ของจีนฟื้นตัว รวมถึงการท่องเที่ยวนอกประเทศของชาวจีนที่เป็นบวกกับเศรษฐกิจหลายประเทศที่เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวชาวจีน

ขณะเดียวกันการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปีทำให้แรงกดดันต่อในเรื่องดังกล่าวต่อราคาสินทรัพย์ลดลง ดังนั้นแนวโน้มที่ราคาสินทรัพย์ที่จะปรับตัวลงเริ่มมีจำกัด โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่ถูกขายไปก่อนหน้ามีแนวโน้มฟื้นตัว

ทั้งนี้ในช่วงการปรับตัวลงของตลาดตราสารทุนตั้งแต่ปี 2021 พบว่าหุ้นกลุ่มนวัตกรรมได้ถูกขายมากที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดอื่น โดยดัชนี MSCI ACWI IMI Innovation Index ได้ปรับตัวลงมา -36 % จากจุดสูงสุด เทียบกับดัชนี MSCI ACWI Growth Index ที่ปรับตัวลงมา -29% ส่วน ดัชนี MSCI ACWI Index ปรับตัวลง -18% และ กับ MSCI ACWI Value Index ที่ปรับตัวลงมา -8% ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มนวัตกรรมถูกประเมินว่ามีมูลค่าที่ถูกลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ (Source: Goldman Sachs Asset Management as of January 2023)

บลจ.ดาโอ มองว่าหุ้นในกลุ่มนวัตกรรมทั่วโลกมีโอกาสปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสในการลงทุน ทางบลจ.จึงเปิดเสนอขาย IPO “กองทุนเปิด ดาโอ อินโนเวชั่น (DAOL-INNOVA)” มีความเสี่ยงระดับสูง (6) เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 9 -16 ก.พ. 2566 ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท โดยมีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนวัตกรรมโลกยุคใหม่ (Disruptive innovation) ทั่วโลก ดังนี้

1.) กลุ่ม Technology ที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์, ปัญญาประดิษฐ์, Cloud Computing, เซมิคอนดักเตอร์, การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ผ่านกองทุน Invesco China Technology ETF , VanEck Semiconductor ETF และ Global X Robo Global Robotics & Automation ETF

2.) กลุ่ม Fintech Revolution ที่เกี่ยวกับนวัตกรรมทางการเงินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองผู้ให้บริการที่ดีขึ้น ได้แก่ การชำระเงินออนไลน์ ระบบสินเชื่อสำหรับรายย่อย ระบบดูแลและแนะนำการลงทุนด้วย AI รวมถึง กระเป๋าเงินดิจิทัลครบวงจร และครอบคลุมในกลุ่ม Commerce ซึ่งลงทุนผ่านกองทุน Global X MSCI China Consumer Discretionary ETF , SPDR® MSCI Europe Consumer Discretionary และ IPAY ETFMG Prime Mobile Payments ETF

3.) กลุ่ม Health Revolution ลงทุนอุตสาหกรรมทางแพทย์ ที่เกี่ยวกับการรักษาและวินิจฉัยโรค ด้วยเทคโนโลยียุคใหม่ ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้น ผ่านกองทุน SPDR S&P Health Care Equipment ETF

4.) กลุ่ม Smart Mobility หรือเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพอุตสาหกรรมคมนาคมให้สะดวกปลอดภัยมากขึ้นรวมถึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น Ride Sharing, Bike Commuting ,Car Sharing, Drone system โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก iShares Self Driving EV and Tech ETF(Source: DAOL INVESTMENT MANAGEMENT, Data as of 25 January 2023)

กองทุนใช้กลยุทธ์ Active Asset Allocation และบริหารพอร์ตการลงทุนแบบ Dynamic ที่มีการลงทุนแบบยืดหยุ่นระหว่าง เงินสด และสินทรัพย์เสี่ยงตามสภาวะตลาดที่เหมาะสม และปรับสัดส่วนในกลุ่มเทคโนโลยี 5นวัตกรรมในแต่ละกลุ่มตามช่วงเวลาที่มีแนวโน้มศักยภาพในการเติบโต ทำให้ กองทุน DAOL-INNOVA สามารถปรับการลงทุนได้ในทุกสภาวะตลาด รวมถึงการปรับพอร์ตให้เป็นกลางเพื่อรอความชัดเจนของทิศทางตลาด เป็นกลยุทธ์บริหารพอร์ตลงทุนที่ช่วยสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้ดียิ่งขึ้นและเหมาะกับภาวะตลาดที่มีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยที่ไม่แน่นอน

“บลจ.ดาโอ มองว่า การปรับตัวลงของราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำมาซึ่งโอกาสและศักยภาพในการสร้างพอร์ตการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น A.I. , Big Data, ธุรกรรมการเงินออนไลน์, รถยนต์ไฟฟ้า และความมั่นคงด้านพลังงาน ถือเป็นเทรนด์ในระยะยาว “กองทุนเปิด ดาโอ อินโนเวชั่น” จึงเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนจากเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจและการใช้ชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันและอนาคต ซึ่ง บลจ.ดาโอ เชื่อว่ามีศักยภาพในการพัฒนาให้เติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน” น.ส.นิสารัตน์ กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ.ดาโอ โทรศัพท์ 02-351-1800 กด 2 หรือตัวแทนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของ บลจ.ดาโอ ได้แก่ บล.ดาโอ (ประเทศไทย), บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) , บล.โนมูระ พัฒนสิน , บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) , บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) , บล.เกียรตินาคินภัทร , บลน.เว็ลธ์เมจิก , บล.เอเชียเวลท์ , บล.เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ , บล.คันทรี่ กรุ๊ป , บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ , บล. ฟินันเซีย ไซรัส, บลน.ฐานเศรษฐกิจ แคปพิตอล, บล.เอเอสแอล, บลน.เทรเชอริสต์ ,บล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย), บล.ไทยพาณิชย์ ,บล.กสิกรไทย, บล.กรุงศรี ,บลน.ฟินโนมินา, บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย), ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ , บลจ. เอ็กซ์สปริง ,บล.เคเคพี ไดม์ , บลน.โรโบเวลธ์, บลน.เวลท์ รีพับบลิค, บลน.แอสเซนด์ เวลธ์, บล.ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น และ บล.สยามเวลธ์

บริษัทได้จัดโปรโมชั่นซื้อลงทุนและสับเปลี่ยนเข้ากองทุน DAOL-INNOVA เฉพาะช่วงวันเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 9-16 ก.พ.2566 สำหรับยอดเงินลงทุนสับเปลี่ยนเข้าจะนับเฉพาะการสับเปลี่ยนจากกองทุน DAOL-MONEY-R และ DAOL-INCOME เท่านั้น โดยยอดเงินลงทุนที่เข้าเงื่อนไขข้อ 1 โดยทุกๆ 1 ล้านบาท ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ DAOL-MONEY-R มูลค่า 500 บาท