HoonSmart.com>>สิวารมณ์ เรียลเอสเตท หรือ SVR พร้อมเทรด mai 8 ก.พ.นี้ ย้ำขึ้นแท่นผู้นำบ้าน “Premium Economy” รายแรก บ้านคุณภาพระดับพรีเมี่ยมมีความคุ้มค่า ราคาระดับ 1-7 ล้านบาท ชูจุดแข็งเหนือคู่แข่ง “หมุนรอบเร็ว (Quick turnover), ก่อสร้างเร็ว – ขายเร็ว – ส่งมอบเร็ว” สะท้อนการเป็นหุ้น High Growth – High Return เผยผลงานงวด 9 เดือน 65 กำไรสุทธิ 35.09 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0923 บาท
นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท หรือ SVR เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมในการนำหุ้น SVR เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ใช้ชื่อย่อ SVR การที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯครั้งนี้ ทำให้บริษัท เปิดโอกาสจัดหาแหล่งเงินทุนจากตลาดทุน และเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จและเติบโตไปพร้อมๆ กับ SVR
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนจัดหาที่ดิน ที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการใหม่ๆให้ครอบคลุมเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และพร้อมการสู่การเติบโตในระดับ High Growth (หุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง) High Return (หุ้นที่มีผลตอบแทนสูง) ได้อย่างมั่นคงยั่งยืน สู่การเป็นผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Premium Economy เป็นรายแรก
สำหรับจุดแข็ง SVR คือ 1.พัฒนาโครงการที่หมุนรอบเร็ว หรือ Quick turnover : วิเคราะห์ทำเลตั้งแต่การเลือกซื้อที่ดิน พร้อมวางแผนในการซื้อที่ดินต่อโครงการไม่เกิน 50 ไร่ ทำให้สามารถกระจายการพัฒนาโครงการได้ ในหลากหลายพื้นที่ ซึ่งมีความเหมาะสมกับความต้องการและไม่เกิดอุปทานส่วนเกิน ส่งผลให้โครงการของ SVR สามารถขายได้หมดภายใน 1 ถึง 3 ปี ทำให้บริษัทฯสามารถหมุนรอบในการทำการขายได้เร็ว
2.ก่อสร้างเร็ว – ขายเร็ว – ส่งมอบเร็ว : การก่อสร้างด้วยระบบ Precast (พรีคาสท์) เพื่อลดระยะเวลาในการก่อสร้าง ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ นอกจากนี้ บริษัทฯมีอำนาจในการต่อรองราคาวัสดุก่อสร้าง จาก Suppliers (ซัพพลายเออร์) ส่งผลให้บริษัทฯมีอัตราการทำกำไรที่ดี
3.ความ“คุ้มค่า” แบบ Premium Economy : บริษัทฯสร้างบ้านแบบ Premium Economy ให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความคุ้มค่าของบ้านในระดับพรีเมียม บนพื้นฐานของราคาบ้านที่ประหยัด ในระดับราคา 1-7 ล้านบาท โดยกลยุทธ์ดังกล่าวสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง (Real Demand) และตอบโจทย์ทุก Lifestyle ทุก Generation ได้อย่างลงตัว
ส่วนนโยบายในการจ่ายเงินปันผลนั้น บริษัทฯมีนโยบายจ่ายในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯยังไม่มีการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ดังนั้นโอกาสที่นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในหุ้น SVR ขณะนี้ ก็มีสิทธิได้รับเงินปันผลที่คุ้มค่า
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินว่า SVR มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการบ้านแนวราบ ในระดับราคา 1-7 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นกลุ่ม Real Demand สูง เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยแบบ Premium Economy (ความคุ้มค่า) และด้วยวิสัยทัศน์การบริหารธุรกิจ ภายใต้กลยุทธ์การบริหารจัดการต้นทุน การสร้างบ้านที่มีความคุ้มค่าให้กับลูกค้า และความสามารถรับรู้รายได้จากการโอนได้อย่างรวดเร็ว เป็นปัจจัยเชิงบวก ที่ส่งผลให้ SVR เติบโตสู่ระดับ High Growth ได้อย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า SVR เป็นบริษัทฯที่มีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงต่ำ โดยบริษัทฯ มีนโยบายบริหารจัดการอัตราหนี้สินต่อทุน ภายหลัง IPO ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2 :1 เท่า หนุนให้ภาพรวมธุรกิจมีศักยภาพเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ดังนั้น จึงมองว่าหุ้นอสังหาฯน้องใหม่อย่าง SVR จึงเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าจับตา และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/65 ลดลงเล็กน้อยเทียบไตรมาส 3/64 ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน 65 กำไรเพิ่มขึ้นอย่ามากเมื่อเทียบงวดเดียวกันปีก่อน โดย งวดไตรมาส 3/65 มีกำไรสุทธิ 11.42 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0301 บาท งวดไตรมาส 3/64 มีกำไรสุทธิ 11.78 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.031 บาท สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน 65 กำไรสุทธิ 35.09 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0923 บาท เทียบกับงวด 9 เดือน 64 มีกำไรสุทธิ 6.14 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0162 บาท
#สิวารมณ์ #SVR