หุ้นเช้านี้ลบ 2.72 จุด เงินดอลลาร์แข็งค่า-บอนด์ยีลสูงขึ้น-ราคาน้ำมันทรุด

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 2.72 จุด ตามตลาดสหรัฐหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเษตรสหรัฐเดือนม.ค.ออกมาสูงกว่าคาดมาก สะท้อนตลาดแรงงานยังตึงตัว หวั่นการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ส่ง Dollar Index กลับมาแข็งค่า-บอนด์ยีลด์สหรัฐขึ้น ส่งเงินไหลออก ทั้งราคาน้ำมันก็ยังทรุดตัวแรงด้วย

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 6 ม.ค.2566 ณ เวลา 9.58 น. อยู่ที่ระดับ 1,685.67 จุด ลดลง 2.72 จุด หรือ -0.27% มูลค่าซื้อขาย 2,480.08 ล้านบาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index จะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,680-1,695 จุด บรรยากาศการลงทุนค่อนมาในทางลบเล็กน้อยหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลง ตอบรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯเดือน ม.ค. ออกมาสูงกว่าคาดมากและเร่งขึ้นเป็น 5.17 แสนตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราว่างงานลดลงเหลือ 3.4% ต่ำสุดตั้งแต่ปี 1969 ขณะที่ค่าจ้างแรงงาน +0.3% m-m, +4.4% y-y ใกล้เคียงคาด ซึ่งจากตัวเลขที่ออกมาสะท้อนว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯยังตึงตัวและมีโอกาสทำให้เงินเฟ้อยังปรับตัวลงช้า ตลาดจึงเริ่มปรับคาดการณ์ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากเดิมที่คาด Peak ที่ 4.75-5% ขึ้นเป็น 5-5.25% ส่งผลให้ Dollar Index พลิกกลับมาแข็งค่าอีกครั้งและเม็ดเงินไหลออกจากทุกสินทรัพย์

ส่วนในประเทศวันนี้จับตาเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ตลาดคาด Headline +5.12% y-y ส่วน Core +3.1% y-y ด้านราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่อง จึงคาดว่ายังเป็นบวกต่อกลุ่ม Anti-Commodity และ Consumption Play ให้ยังปรับตัวดีกว่าตลาด ขณะที่การประกาศกำไรไตรมาส 4/65 ของบริษัทจดทะเบียนจะเริ่มทยอยออกมาหนาตามากขึ้น ยังมองจังหวะอ่อนตัวของดัชนียังมองเป็นโอกาสทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว ส่วนระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบไตรมาส 4/65 แข็งแรง

บล.กรุงศรี มอง SET แกว่งตัว 1,680 – 1,695 จุด ภาวะตลาดกลับมากังวลเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกหลังการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น , อัตราการว่างงานลดลงสู่ 3.4% และค่าจ้างรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield)สหรัฐ เพิ่มขึ้นและเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงเป็นลบต่อภาวะตลาด อย่างไรก็ตามแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP อยู่ที่ 164.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -1.20% มูลค่าซื้อขาย 268.11 ล้านบาท
PTT อยู่ที่ 32.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.76% มูลค่าซื้อขาย 169.91 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 144.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.35% มูลค่าซื้อขาย 115.66 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 952.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +0.21% มูลค่าซื้อขาย 111.26 ล้านบาท
CPALL อยู่ที่ 67.00 บาทลดลง 0.50 บาท หรือ -0.74% มูลค่าซื้อขาย 105.76 ล้านบาท