หุ้นเช้านี้บวก 1.79 จุด แกว่งตัวในกรอบตอบรับผลประชุมเฟดไปแล้ว

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 1.79 จุด แกว่งตัวในกรอบ 1,675-1,690 จุด ตอบรับผลประชุมเฟดไปแล้ว โดยกลุ่มพลังงานถ่วงหลังราคาน้ำมันพักตัวลง หุ้น Tech และ Growth ยังได้ Sentiment บวกจากการปรับตัวขึ้นของ NASDAQ ระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบไตรมาส 4/65 แข็งแรง

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 3 ก.พ..2566 ณ เวลา 10.01 น. อยู่ที่ระดับ 1,684.37 จุด เพิ่มขึ้น 1.79 จุด หรือ +0.11% มูลค่าซื้อขาย 4,719.83 ล้านบาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,675-1,690 จุด หลังจากตอบรับกับผลการประชุมและถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปแล้ว ขณะที่กลุ่มพลังงานคาดว่ายังถ่วงตลาดต่อเนื่องตามราคาน้ำมันดิบที่ยังพักตัวลง ขณะที่หุ้น Tech และ Growth แม้ยังได้ Sentiment บวกจากการปรับตัวขึ้นแรงของ NASDAQ โดยคืนนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามคือการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯเดือน ม.ค. 66 โดยตลาดคาดชะลอเหลือ 1.85 แสนตำแหน่ง ชะลอจากเดือนก่อนที่ 2.23 แสนตำแหน่ง ส่วนค่าจ้างแรงงานคาด +0.3% m-m, +4.3% y-y ชะลอตัวลงเช่นกัน

โดยรวมยังมองกลุ่ม Anti-Commodity และ Consumption Play จะยังขยับตัวได้ดีกว่าตลาดในระยะนี้ รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะประกาศกำไรไตรมาส 4/65 แข็งแกร่ง ซึ่งจะประกาศหนาแน่นขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า รวมถึงติดตามพัฒนาการทางการเมืองโดยเฉพาะประเด็นโอกาสยุบสภา หากมีจังหวะอ่อนตัวของดัชนียังมองเป็นโอกาสทยอยสะสมระยะกลาง-ยาว ส่วนระยะสั้นเน้นเก็งกำไรหุ้นที่คาดงบไตรมาส 4/65 แข็งแรง

หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : BA, BDMS, BEM, CENTEL, NOBLE

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเร่งขึ้นเป็น 1,398 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังกระจุกตัวที่ไต้หวันและเกาหลีใต้ 851 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 626 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน แต่ค่อนไปในทิศทางไหลออก นำโดยไทย 81 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเม็ดเงินไหลเข้าสูงสุดในปีก่อน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะชะลอการไหลเข้าหลังตอบรับเชิงบวกต่อผลการประชุมเฟดไปแล้วมากพอสมควร ส่วนคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานของสหรัฐฯเดือน ธ.ค.

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP อยู่ที่ 167.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -1.47% มูลค่าซื้อขาย 654.80 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 930.00 บาท เพิ่มขึ้น 14.00 บาท หรือ +1.53% มูลค่าซื้อขาย 472.96 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 74.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.34% มูลค่าซื้อขาย 422.07 ล้านบาท
PTT อยู่ที่ 32.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.76% มูลค่าซื้อขาย 251.25 ล้านบาท
KCE อยู่ที่ 57.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +1.76% มูลค่าซื้อขาย 217.94 ล้านบาท