WHA บวก 1.55% โบรกฯมองบวกต่อเป้าบริษัทที่จะเติบโตทุกธุรกิจ

HoonSmart.com>>หุ้น WHA บวก 1.55% โบรกฯมองบวกต่อเป้าบริษัทที่จะเติบโตในทุกธุรกิจ จากบริษัทตั้งเป้า 5 ปีรายได้รวมเป็น 1 แสนล้านบาท และ presale ปี 66 ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.75 พันไร่ เบื้องต้นคงประมาณการกำไรปกติปี 66 ที่ 4.1 พันล้านบาท (+44% YoY)

เมื่อเวลา 10.25 น.หุ้น WHA บวก 1.55% มาที่ 3.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 242.45 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.96 บาท ขึ้นสูงสุด 3.96 บาท และต่ำสุด 3.92 บาท

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) แนะนำ”ซื้อ”หุ้นบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท มองเป็นบวกต่อเป้าบริษัทที่จะเติบโตในทุกธุรกิจ จากรายได้รวม 5 ปีที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาท และงบการลงทุนที่เพิ่มขึ้นเป็น 6.85 หมื่นล้านบาท (เดิมงบลงทุน 5 ปีในปี 2565 ที่ 5 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น ในธุรกิจนิคมสูงขึ้นเป็น 2.9 หมื่นล้านบาท (ปี 2565 ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท) สะท้อนถึงความเชื่อมั่น และโอกาสในการขยายธุรกิจนิคมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเข้ามาของอุตสาหกรรม EV ที่จะมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ตามมาตรการ 30@30 และมาตรการส่งเสริมการผลิตและขาย EV Battery ของภาครัฐ และเป้ายอด presale ปี 2566 ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,750 ไร่ ซึ่งสูงกว่าที่คาดที่ 1.3 พันไร่ และใกล้เคียงกับยอด presale ปี 2565 ที่ 1,740 ไร่ (มียอดขายที่ดิน ขนาดใหญ่ 600 ไร่ให้ BYD)

ทั้งนี้ ประเมินว่ายอด presale ปี 2566 จะเพิ่มขึ้น ได้จากฐานลูกค้าที่อยู่ระหว่างการเจรจาที่สูงกว่า 1 พันไร่ และลูกค้า กลุ่ม Automotive และ EV รายใหญ่จานวน 2 รายรวม 8-900 ไร่ที่คาดว่าจะ เห็นความชัดเจนในครึ่งแรกปี 66 ซึ่งหนุนให้เราเชื่อมั่นว่ายอด transfer ปี 2566 จะทรงตัวในระดับสูงจากปี 2565 ที่แตะ 1.8 พันไร่ เนื่องจากโดยปกติบริษัทจะ อาศัยระยะเวลาประมาณ 6 เดือนในการเปลี่ยน presale เป็น transfer เบื้องต้นคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 ที่ 4.1 พันล้านบาท (+44% YoY)

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WHA เผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติในระยะ 5 ปี (ปี 2566-2570) อยู่ที่ระดับ 100,000 ล้านบาท และวางงบลงทุนไว้ที่ 68,500 ล้านบาท ด้านธุรกิจนิคมตั้งเป้าหมายมียอดขายที่ดิน 1,750 ไร่ แบ่งเป็น ในไทย 1,200 ไร่ และเวียดนาม 550 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มียอดขาย 1,740 ไร่ แบ่งเป็น ในไทย 1,634 ไร่ และเวียดนาม 106 ไร่ ทั้่งนี้บริษัทอาจจะมีการปรับเป้าหมายยอดขายที่ดินเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ 2 ราย โดยรายแรกเป็นกลุ่มซัพพลายเชนของค่ายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) คาดว่าการเจรจาเสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค.-เม.ย. 2566 พื้นที่กว่า 200-300 ไร่ และรายที่สองเป็นกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ พื้นที่ขนาดเทียบเท่าที่เคยขายให้กับบริษัท บีวายดี (ประเทศไทย)หรือ BYD ประมาณเกือบ 600 ไร่ คาดว่าการเจรจาเสร็จสิ้นภายในกลางปี 2566