MEB ผู้นำแพลตฟอร์มอี-บุ๊ค หุ้นเติบโตสูงในกลุ่ม ”เซ็นทรัล”

HoonSmart.com>>บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ( CRC ) ส่ง บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น หรือ MEB ในกลุ่มเซ็นทรัล ฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) รับปีกระต่ายทอง ซึ่ง “เมพ” ถือเป็นบริษัทย่อย ที่ B2S ถือหุ้นโดยตรงก่อนเข้าตลาด 55.42% และหลังไอพีโอ 51.26%

“เมพ” เกิดขึ้นจากการรวมตัวของหนุ่มวิศวะจุฬา ฯ 2 คน …คนแรก นายรวิวร มะหะสิทธิ์  หนุ่มวิศวะไฟฟ้า เป็นคนชอบอ่านหนังสือ เมื่อเจอเพื่อนวิศวะคอมพิวเตอร์ คณะวิศวะเหมือนกัน รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ร่วมกันตั้งบริษัท เอเอสเค มีเดีย ตั้งแต่ปี 2551 เริ่มจากทำสำนักพิมพ์ และซอฟแวร์ เฮ้าส์

วิศวะไฟฟ้า + วิศวะคอมพ์ ทำให้หนุ่มคู่นี้ เห็นโลกการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี จึงเริ่มขยับมาทำแพลตฟอร์มการอ่านหนังสือออนไลน์ หรือที่เข้าใจกันคือ อี-บุ๊ค ( E-BOOK) โดยตั้งบริษัท MEB ขึ้นมาในปี 2544 จำหน่ายหนังสือออนไลน์ หนอนหนังสือไม่ต้องเดินไปซื้อหนังสือที่ร้านค้า หรือร้านหนังสืออีกต่อไป

แค่โหลดแอพ แล้วขยับนิ้วมือ ก็สามารถเข้าไปท่องโลกหนังสือ เพิ่มความสะดวกสบาย ให้กับหนอนหนังสือ วรรณกรรมทุกประเภท หนังสือแปล หนังสือความรู้ต่าง ๆ รวมทั้งหนังสือบันเทิงเริงใจ เป็นเหตุให้ผลประกอบการของ MEB เติบโตสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 เปลี่ยนโลกทั้งใบ ยิ่งทำให้จำนวนผู้เข้าใช้ แพลตฟอร์ม ของ MEB และ readAwrite ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอ่านวรรณกรรมออนไลน์ มีผู้เข้าใช้งาน จำนวนมาก กลุ่มอายุตั้งแต่ 20-45 ปี

ด้วยความสามารถของ 2 หนุ่มวิศวะ และความโดดเด่นของธุรกิจ ที่ไม่ยอมหยุดแค่ธุรกิจสตาร์ทอัพ แต่ทั้ง 2 กลับมองหาโอกาสในการต่อยอดธุรกิจแพลตฟอร์ม ในปี 2557  MEB จึงหาผู้ร่วมทุน ซึ่งได้กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ฯ (CRC) เข้ามาร่วมทุนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ผ่านทางบริษัท B2S  ถือหุ้น 55% ก่อนเข้าตลาดหุ้น และหลังจากกระจายหุ้นให้กับนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก (IPO) แล้ว สัดส่วนการถือหุ้นของ B2S จะเหลือ 51.26 % ขณะที่ 2 หนุ่มวิศวะ ถือหุ้นรวมกัน 18% เศษ หรือคนละ 9.38%

รวิวร มะหะสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEB กล่าวว่า  จุดเด่นของ MEB เป็นร้านขายหนังสือ ทุกหมวดหมู่ ทุกสำนักพิมพ์ หนังสือแปล แม้กระทั่งหนังสือพิมพ์ ที่ทุกคน สามารถเสียเงินเข้าไปอ่านออนไลน์ได้  ณ ไตรมาส 3/2565 มีผู้เข้าใช้งานอี-บุ๊คของ MEB  แล้ว 8 ล้านราย และปัจจุบัน กำลังมุ่งหน้าไปสู่ตัวเลข 10 ล้านบาท

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ตัวผลดำเนินงาน โดยเฉพาะรายได้ขาย-บริการ เติบโตก้าวกระโดด จาก 614.30  ล้านบาท ในปี 2562 ขึ้นมาเป็น 1,444.46 ล้านบาท ในปี 2564  และแค่ 9 เดือน/2565  มีรายได้ 1,251.92 ล้านบาท

อัตรากำไรสุทธิจาก 13.27% ในปี 2562 ขึ้นมาเป็น 18.91% ในปี 2564 และ 19.14% ในงวด 9 เดือน/65

ขณะที่กำไรก็เติบโตตามรายได้ จาก 82 ล้านบาท ในปี 2562 และ 9 เดือน/65 มีกำไร 241.85 ล้านบาท

แทบจะเรียกได้ว่า ธุรกิจร้านหนังสือออนไลน์ ไม่มีต้นทุนสาขา เพราะไม่มีหน้าร้านขายหนังสือ  ไม่มีต้นทุนพนักงานหน้าร้าน  มีเพียงต้นทุนระบบ และซอฟแวร์ ที่เป็นหัวใจหลักสำคัญของแพลตฟอร์มธุรกิจขายหนังสือออนไลน์

” รวิวร ” หรือ ใช้ ยังบอกอีกว่า โอกาสผลดำเนินงานจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จากปัจจุบัน เนื่องจาก การอ่านหนังสือออนไลน์ เป็นเทรนด์ของโลกในอนาคต และดิจิตอล เป็นเทรนด์อนาคตของหนังสือ ซึ่งการเข้าตลาดหุ้น ไม่ใช่เรื่องของเงินทุน เพียงอย่างเดียว แต่วัตถุประสงค์หลักต้องการความน่าเชื่อถือของผู้เข้าใช้งาน ผ่านแพลตฟอร์ม ที่มีเสถียรภาพ เข้าถึงได้ง่าย และความน่าเชื่อถือของฐานะการเงิน ที่มั่นคง ไม่มีหนี้ที่เป็นภาระดอกเบี่้ย

ซีอีโอ กล่าวทิ้งท้ายว่า  MEB ถือเป็นผู้นำ ของธุรกิจอี-บุ๊ค  ที่มียอดขายและรายได้ , การทำกำไร และจำนวนคนอ่าน มากที่สุดของไทย มุ่งหน้าสู่ 10 ล้านคน ในไม่ช้า รวมทั้งแผนการขยายแพลตฟอร์มไปต่างประเทศ ในอีก 1-3 ปีข้างหน้า ต่อยอดรายได้-กำไรให้กับบริษัท