Taxonomy กับการพัฒนาการเงินเพื่อความยั่งยืน

โดย…ฝ่ายตราสารหนี้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ในปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจในเรื่องการดำเนินธุรกิจหรือการจัดทำโครงการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างแพร่หลายมากขึ้น และต่างมุ่งที่จะมีส่วนช่วยให้โลกบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ (Net zero emission) ภาคการเงินจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable finance) เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงเงินทุนสำหรับการทำธุรกิจที่เน้นความยั่งยืน และคำว่า “Taxonomy” ก็เริ่มถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงอย่างแพร่หลาย

“Taxonomy” คืออะไร

ในบริบทของการเงินเพื่อความยั่งยืน Taxonomy คือ การกำหนดนิยามและจัดหมวดหมู่กิจกรรมในภาคเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อใช้ในการช่วยประเมินว่า กิจกรรมใดเข้าข่ายเป็นการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งการมีหลักการและแนวทางที่ชัดเจนจะช่วยให้มีความโปร่งใส ลดปัญหาด้าน Greenwashing1 ตลอดจนมีมาตรฐานที่สอดคล้องกันทั้งระบบ

ความสำคัญและประโยชน์

Taxonomy เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ทั้งการจัดสรรเงินทุนและมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนของภาคเอกชน ตอบโจทย์เป้าหมายด้านความยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ2 ได้อย่างตรงจุดและสอดรับกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นการห้ามลงทุนในกิจกรรมที่ไม่เข้าข่ายตาม Taxonomy โดยในภาคตลาดทุนสามารถนำ Taxonomy ไปใช้อ้างอิงเป็นแนวทางสำหรับผู้ออกตราสารหนี้ กลุ่มความยั่งยืน3 ในการประเมินและคัดเลือกโครงการหรือกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และใช้เป็นเครื่องมือสำหรับผู้จัดการกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (Sustainable and Responsible Investing Fund: SRI Fund) ในการคัดเลือกหลักทรัพย์และจัดพอร์ตการลงทุนที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนหรือคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

ความคืบหน้าและพัฒนาการในภูมิภาคและประเทศอื่น ๆ

Taxonomy ของสหภาพยุโรป (EU Taxonomy) ถือว่ามีการเผยแพร่และบังคับใช้เป็นภูมิภาคแรกของโลก ซึ่งสร้างความตื่นตัวให้ภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแลตระหนักถึงความสำคัญของ Taxonomy และเริ่มศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการนำมาปรับใช้ อย่างไรก็ดี ด้วยสหภาพยุโรปมีระดับการพัฒนาและโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่น (เช่น กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปเน้นภาคบริการมากกว่าภาคการผลิตและอุตสาหกรรมหนัก) นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green technology) ที่ค่อนข้างทันสมัย จึงทำให้การประเมินกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีตัวชี้วัดและเงื่อนไขที่เข้มข้น ส่งผลให้ EU Taxonomy อาจจะไม่เหมาะสมกับบริบทของประเทศในภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งยังคงพึ่งพิงกิจกรรมในอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกระจก เป็นสัดส่วนสูง และอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืน (Transition pathway)

ปัจจุบันหลายประเทศและภูมิภาคทั่วโลก (เช่น อาเซียน จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ แคนาดา แอฟริกาใต้ และชิลี) ได้เริ่มพัฒนา Taxonomy ให้มีเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และโครงสร้างที่เหมาะกับบริบททางเศรษฐกิจและสังคมของตนเอง โดยอาจจะมีการปรับปรุงหรือเพิ่มเติมองค์ประกอบอื่น ๆ จากที่มีอยู่ใน EU Taxonomy เช่น การจัดหมวดหมู่แบบ Traffic light system4 โดยเพิ่มหมวดหมู่กิจกรรมสีเหลืองเพื่อรองรับกิจกรรมที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการลดก๊าซเรือนกระจก แต่ยังอยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านไปสู่กิจกรรมที่มีความยั่งยืน หรือ Transition activity เป็นต้น

Thailand Taxonomy (มาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของไทย)

การเล็งเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญโดยภาคการเงินไทยในการจัดทำ Taxonomy ของไทย ทำให้เกิดการจัดตั้งคณะทำงาน Thailand Taxonomy (คณะทำงานฯ) ที่ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคการเงิน5 เพื่อขับเคลื่อนให้ไทยมีแนวทางการจัดกลุ่มกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยต้องคำนึงถึงการสอดรับกับมาตรฐานสากล (Inter-operability) ขณะเดียวกันก็ต้องพิจารณาบริบทและ Transition pathway ของประเทศ เพื่อสนับสนุนการปรับตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างทั่วถึง น่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับ และสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

“โดยเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการพัฒนา Taxonomy บนหลักการดังกล่าว จะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของระบบนิเวศ (ecosystem) การเงินเพื่อความยั่งยืน กระตุ้นการลงทุนในกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนภาคธุรกิจเข้าสู่เศรษฐกิจแบบคาร์บอนต่ำ และมีส่วนช่วยผลักดันให้ประเทศบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อไป”

สำนักงาน ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้แทนคณะทำงานฯ อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความเห็นต่อร่าง Thailand Taxonomy ในระยะที่ 1 ซึ่งจะเริ่มด้วยการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคพลังงานและภาคการขนส่งก่อน เนื่องจากเป็นภาคเศรษฐกิจหลักที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสัดส่วนสูง โดยคาดว่าจะเผยแพร่Thailand Taxonomy ระยะที่ 1 ฉบับสมบูรณ์ได้ภายในไตรมาส 1 ของปี 2566 ทั้งนี้ ผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจ
สามารถร่วมให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะได้จนถึงวันที่ 26 มกราคม 2566 (Link)

***********************************

หมายเหตุ:

1 ธุรกิจหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ้างว่ามีความสอดคล้องหรือตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน/เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้ดำเนินการด้านความยั่งยืน/เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง หรือดำเนินการต่ำกว่าระดับที่ได้อ้างไว้

2 อาทิ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และเป้าหมายภายใต้ความตกลงปารีสในการควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส

3 เช่น ตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) เป็นต้น

4 EU taxonomy จะจัดหมวดหมู่กิจกรรมเป็น 2 กลุ่ม คือ กิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (สีเขียว) และกิจกรรมที่ไม่เข้าข่ายเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (สีแดง) ส่วน Traffic light system จะจัดหมวดหมู่กิจกรรมเป็น 3 กลุ่ม โดยเพิ่มหมวดหมู่กิจกรรมที่ส่งเสริมหรืออยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านไปสู่กิจกรรมที่มีความยั่งยืน (สีเหลือง) เข้ามาด้วย อาทิ การผลิตพลังงานจากขยะ (waste to energy) การเร่งการปิดตัวของโรงไฟฟ้าถ่านหิน (decommissioning of coal power plant) เป็นต้น

5 (1) หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (2) หน่วยงานกำกับดูแลภาคการเงิน ได้แก่ สำนักงาน ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย (3) ภาคธุรกิจ ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ